Fic :: LAST 8
COUPLE :: TK
-8-
ถ้าคิดว่าเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นได้ยากแล้ว กับน้องชายเขาของคงต้องบอกว่ายากเสียยิ่งกว่ายากกว่า เพราะความสัมพันธ์ที่แสนซับซ้อน ซ่อนเงื่อนพาเอาหญิงสาวถึงกับมึนตึบ หนึ่งรัก สองรัก สามรัก จนความรักกลายเป็นความเศร้าไปในที่สุด แถมดูเหมือนตัวต้นเรื่องจะไม่ต้องไปหาไกล นั่งตีหน้าเศร้าอยู่กับตนตรงนี้เสียด้วย ไม่รู้ว่าควรจะสงสาร สมน้ำหน้า พยุง หรือกระทืบน้องชายตัวเองซ้ำดีที่เอาแต่สร้างเรื่องจนมันใหญ่โตบานปลายเกินกว่าที่คนทำจะรับเองได้เพียงลำพังไหว
"เฮ้อออ...แทคแกมันบ้า ตาบอด งมงาย หน้าโง่ คิดน้อย ความงี่เง่าของแกทั้งหมดที่ฉันพูดมามันกำลังจะทำลายตัวแกเองแล้วก็คนที่แกรักแบบไม่เหลือซาก ฉันไม่มั่นใจนะว่าใครในสองคนนี้คือคนที่แกรักจริงๆ แต่ถึงฉันจะรู้ฉันก็ไม่บอกแกหรอก เพราะมันเป็นสิ่งที่เจ้าตัวควรจะรู้เอาเอง"
นั่งมองใบหน้าที่สับสนของน้องชายผู้เบาปัญญาของตัวเองแล้วอยากจะเอาเค้กปาใส่หน้าเสียให้เข็ด แต่ก็ยั้งมือเอาไว้ เพราะตนยังต้องการสั่งสอนน้องชายของตัวเองอีกยาว
"พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันครับ? ผมก็บอกแล้วไงว่าผมรักทั้งสองคน"
ตีสีหน้าไม่เข้าใจใส่พี่สาวคนสวย จนคนฟังทนไม่ไหวนิ้วมือนุ่มเรียงตัวกันอย่างแน่นหนาแล้วฟาดลงที่กลางศีรษะอ๊ก แทคยอนอย่างไร้ความปราณี
"นี่ไง!รักทั้งสองคน แกนี่มันโตแต่ตัว ฉลาดแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำไมเรื่องที่ควรฉลาดกลับโง่แบบนี้นะเด็กบ้า...ความรักมันมีเยอะรูปเยอะแบบ หลากหลาย แต่ไม่มีรูปแบบไหนที่เหมือนกับความรักแบบที่เรียกกันว่าคนรักหรอกนะ ความรักแบบคนรัก การใช้ชีวิต"คู่" แบบคนรักน่ะ แกเข้าใจถึงคำว่าคู่หรือเปล่าแทค? คู่คือคนสองคน แค่สองคน ไม่มีตัวแปรอื่นๆ แกจะรักคนถึงสองคนในเวลาเดียวกันไม่ได้ แต่ถ้าแกยืนยันว่าแกรักทั้งสองคน ฉันคงต้องพูดว่าแกแยกความระหว่างความรักกับความหลงหรือความใคร่ไม่ออกแล้วละ หนึ่งในสองคนนี้มีแค่คนเดียวที่แกรักอีกคนไม่ใช่แทค แกต้องเลือกจากหัวใจแกเอง แกต้องตอบโจทย์ของตัวแกเองให้ได้ ความรักกับความใคร่มันไม่ได้ไปด้วยกันได้เสมอหรอกนะ ว่าจะเลือกความรักนิรันดร์หรือความใคร่นิรันกาล ถ้าแกเลือกพลาดไปแค่นิดเดียว แกจะไม่มีวันค้นหาอีกสิ่งเจอเลย แล้วคนที่จะต้องเจ็บที่สุดก็คือตัวแกเองนั้นแหละ"
คำแนะนำง่ายๆสำหรับคนตาสว่างแต่อาจจะยากสำหรับคนตาบอดแบบน้องตนเองถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวอย่างง่ายๆ หญิงสาวค่อนข้างแน่ใจว่าอ๊ก แทคยอนที่กำลังหน้ามึนได้ที่แบบนี้จะต้องไม่รู้เรื่องแน่ๆ
"แล้วผมควรทำยังไง?"
ไม่มีผิดที่คิดเอาไว้ น้องชายหน้าหล่อตอนนี้ก็ยังคงหล่อแค่หน้าแตกต่างกับสมองที่เริ่มคิดทุกอย่างได้น้อยลงทุกทีจนจัดได้ว่าเกือบโง่!
"แกไม่ใช่คนโง่ดักดานนะแทค ฉันเป็นพี่สาวแท้ๆของแกฉันรู้ดี ที่แกเที่ยวบอกกับตัวเองว่าต้องเลิกเพื่อความถูกต้อง นั้นมันไร้ค่าสิ้นดีเลย ถ้าเเกบอกว่าจะเลิกกับคุณแต่แกก็ดันตัดใจจากเขาไม่ได้ แถมยังจะคบกับจุนซูทั้งๆที่หัวใจแกก็ยังรักคนอื่นอยู่แบบนั้น มันก็เท่ากับแกยังทรยศทุกคนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนนั้นแหละ...ถ้าแกรักคุณ แกต้องเลิกกับจุนซูแล้วรีบไปหาคุณซะก่อนจะสาย แล้วก็ตัดใจจากจุนซู แต่ถ้าแกรักจุนซูแกก็ต้องเลิกคิดถึงคุณ เลิกพูดว่าแกไม่สามารถตัดใจจากคุณได้ตลอดชีวิตของแก แกต้องเลือกแค่คนใดคนนึ่งเพราะคนที่แกเลือกจะเป็น"คนสุดท้าย"ที่จะอยู่เคียงข้างแกไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ถ้าแกคิดว่าแกจะรักเขาไปตลอดชีวิตน่ะนะ"
ยื่นมือเข้าไปเบิกเนตรให้น้องตาสว่างเท่าที่คนเป็นพี่จะช่วยได้ แต่ก็ไม่สามารถหยั่งรู้ได้ถึงอนาคตอยู่ดีว่าอีกฝ่ายจะเปิดตาเปิดหูเปิดสมองและเปิดใจฟังได้มากน้อยแค่ไหน ถัาจนถึงที่สุดแล้วน้องชายตนจะยังทำตัวเป็นคนฉลาดน้อยอยู่แบบนี้ ก็คงไม่มีอะไรจะต้องแนะนำหรือพูดคุยอีกต่อไป
"ผมเลิกกับพี่จุนซูไม่ได้...ผมเลิกกับพี่เขาไม่ได้ ผมว่าผมกลับดีกว่าแล้วเจอกันนะครับพี่"
ไม่อยู่ต่อรอให้ตัวเองต้องตกอยู่ในที่นั่งอันตรายเพราะถูกพี่สาวบังคับให้บอกเหตุผลที่เลิกกับ คิม จุนซูไม่ได้ร่างสูงรีบลุกขึ้นบอกลาและเดินหนีตีจากหญิงสาวออกจากร้านโดยเร็ว ทิ้งให้นูน่าต้องจ่ายเงินค่าของกินทั้งหมดเพียงลำพังพร้อมคำบ่นจากปากพี่ใหญ่ตระกูลอ๊กถึงน้องชายตัวเองไม่หยุดปากกับเรื่องทั้งหลายแหล่
.
.
"ทำไมถึงไม่ยอมรับโทรศัพท์กันนะ?หรือว่ามัวแต่นอนกกกันจนไม่รู้เดือนรู้ตะวันกัน!"
ร้อนร้นเป็นฟืนที่ถูกเผาไฟ เมื่อพาลเดือดดาลนึกไปถึงเหตุการ์ณที่ตนไม่สามารถล่วงรู้ได้ คิม จุนซูวางหมากผิดพลาด เพราะอารมณ์โมโหทำให้สติขาดผึ่ง จนเรื่องราวกระเด็นไปเข้าหูพี่จินยองเข้าแบบเต็มๆ แต่ที่คิดไม่ถึงคือบทลงโทษที่ได้รับดันผลักให้ตัวเขาเองต้องระเห็จออกจากช่วงเวลาสำคัญมานั่งหงุดหงิดถึงแดกูนี่ คิม จุนซูและอ๊ก แทคยอน เป็นคนรักกัน และนิชคุณคือ "ศัตรู" หมายเลขหนึ่งที่ควรถูกกำจัดในเวลาแบบนี้ในฐานะเป็น"ชู้"กับแทคยอนไม่ใช่เขา!
"นายอยากลองดีกับฉันงั้นหรอแทค? อยากให้ฉันเป็นบ้าไปเลยใช่ไหม? อยากได้บทเรียนราคาแพงไม่งั้นคงไม่ยอมกลับมาเชื่อฟังกันซินะ ได้เดี๋ยวจุนซูคนนี้จัดให้!"
กัดนิ้วระบายอารมณ์อัดอันตันใจของตัวเอง เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มไม่ได้ดังใจ ในเมื่อจดหมายที่ตนเขียนข่มขู่คนรักไปไม่ได้ผล ถ้างั้นการปฎิบัติจริงคงไม่ไกลเกินเอือมงั้นซินะ?
"จุนฮยอง! พี่ขอยืมรถเราหน่อยได้หรือเปล่าจะกลับไปเอาของที่บ้านพักหน่อยน่ะ!"
ตะโกนเรียกนาวิกโยธินหนุ่มน้องชายแท้ๆของตัวเองเพื่อขอยืมรถ และโดยไม่ต้องรอฟังคำตอบนิ้วมือเรียวก็คว้าหมับเข้าที่กุญแจรถยนต์ พร้อมออกตัวพุ่งทะยานเข้าสู่เมืองหลวงอย่างโซลให้ทันใจ ก่อนที่น้องชายจะเอ่ยปากอนุญาติให้ยืมรถเสียอีก
.
.
"ไม่สบายแล้วยังกินน้อยแบบนี้จะดูน่าสงสารไปหรือเปล่าชานซอง"
นั่งมองน้องชายตัวโตเขี่ยอาหารบนจานไปมาอย่างเป็นห่วง เพราะไม่ครั้งไหนที่อาหารจะหลุดรอดไปจากฮวาง ชานซองได้ถ้าหากถูกเด็กชายตัวโตจับจอง เพียงไม่นานมันก็จะหายวาบไปกับตาอย่างกับมายากล แต่นี่เกือบจะชั่วโมงผ่านไป อาหารบนโต๊ะก็คงต้องลดไปไม่ถึงครึ่งเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มคงจะป่วยมากจริงๆในความคิดของนิชคุณ
"ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวมันก็คงดีขึ้นแล้ว...พี่คุณครับวันนี้เราไปสวนสนุกอีกได้หรือเปล่าครับ?ผมอยากไปที่นั้นอีกจัง"
วางส้อมลงกับจานเมื่ออาหารตรงหน้าไม่ได้ดูน่าสนใจสำหรับเขาอีกต่อไป แต่เป็นสวนสนุกต่างหากที่ตนอยากให้ความสนใจในเวลาแบบนี้
"สวนสนุกงั้นหรอ? ป่วยแบบนี้ยังจะอยากไปเนี่ยนะ?"
มองสภาพของชานซองแล้วร่างสูงไม่น่ามีเรี่ยวมีแรงจะไปไหนไกลๆเสียด้วยซ้ำ แล้วนึกยังไงถึงได้อยากไปเที่ยวสวนสนุกแบบนั้นอีกนะ?
"ไม่เห็นเกี่ยวครับผมก็แค่อยากไป แล้วผมป่วยที่ไหนกันแค่เบลอๆเพราะนอนน้อยไปหน่อยแล้วก็ไม่อยากอาหาร แค่นี้ก็ต้องถึงกับเรียกว่าคนป่วยเลยงั้นหรือครับ?"
เอ่ยปากเถียงข้างๆคูๆไปเรื่อยเปื่อย ทั้งๆที่อาการของตนเองจะมองมุมไหนมันก็คือคนไม่สบายดีๆนี่แหละ แต่ความอยากอยู่ใกล้ชิดกับนิชคุณที่มีมากกว่าเหลือล้น จึงทำให้ชานซองทำเป็นลืมอาการป่วยของตัวเขาเองได้ไม่ยากเย็นนัก
"อยากไปเล่นอะไรงั้นหรอคราวนี้น่ะ?"
ส่ายหน้าให้กับความดื้อรั้นของร่างสูง เพราะต่อให้ตนเอ่ยปากห้ามชานซองก็คงขัดคำสั่งตนเองอยู่ดี
"อยากเล่นทุกอย่างนั้นแหละ โดยเฉพาะเครื่องน่ากลัวๆ อันตรายๆ ผมยิ่งอยากเล่น!"
สีหน้ามุ่งมั้นขัดกับคำพูดที่เรียกว่า "เล่น" หลุดออกจากโครงหน้าหล่อเหลา คำพูดที่ดูจริงจังนั้นทำเอาคนฟังถึงกับขมวดคิ้วสงสัยขึ้นมาทีเดียว
"ทำไมต้องแค่ที่อันตรายกับน่ากลัวด้วยกัน?"
ใบหน้าหวานท้าวคางลงกับมือที่วางอยู่บนโต๊ะ ดวงตากลมโตใสแจ๋วมองสบจ้องคนพูดด้วยความอยากรู้อย่างน่ารักน่าชังจน ชานซองแทบจับไข้เป็นบ้ามากกว่าเก่า นิชคุณพี่จะน่ารักแบบนี้ไปถึงไหนกันครับ?
"ก็แค่อยากเล่นเพื่อฝึกเอาไว้น่ะครับ ผมอยากปกป้องพี่จนสุดความสามารถของผม เผื่ออนาคตผมต้องปกป้องพี่จากความน่ากลัวแล้วก็อันตรายยิ่งกว่าในสวนสนุกไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน แต่ที่แน่นอนคือผมจะไม่ยอมให้พี่ตกอยู่ในอันตรายแน่"
บทพูดพระเอกพร้อมท่าทางโอเวอร์แอ็กติ้งถูกดึงออกมาใช้เพื่อให้ดูตลกและไม่จริงจังในสายของนิชคุณ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายจับได้ว่าสิ่งที่เขาพูดไปนั้นมันหมายถึงความจริงตามที่เขาพูด คิม จุนซูคิดจะเล่นงานคนหน้าหวานจริงๆหากคนรักของจุนซูยังไม่ยอมตัดใจ จดหมายก็คงไม่ใช่แค่เพียงจดหมายอีกต่อไ!
"บ้า!...แต่ฉันไม่ไปกับนายหรอกนะ ฉันรู้ว่าบอกไม่ให้นายไม่ไปไม่ได้ นายจะไปก็ไปแต่ฉันไม่ไปหรอก ไปเองคนเดียวเถอะ!"
ที่นิชคุณตีหน้ายักษ์ปฎิเสธไม่ใช่เพราะไม่อยากไป แต่เป็นเพราะไม่ต้องการให้ชานซองต้องไปตากแดดตากลมพาให้อาการป่วยเพิ่มมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งทำให้ร่างกายทรุดตัวลงมากกว่าที่กำลังเป็นอยู่ต่างหาก
"อ้าว?...ไม่เอานะ ถ้าพี่ไม่ไปแล้วผมจะอยากไปทำไมกัน เราสัญญากันแล้วไม่ใช่หรือครับว่าจะอยู่ด้วยกันทั้งวันน่ะ?"
รีบท้วงติ่งเอาคำสัญญามาอ้างทันทีที่เห็นว่านิชคุณกำลังจะเตรียมตัวหนีจากคำขอร้องของตัวเอง ดวงตาคมมองใบหน้าหวานอย่างเอาเรื่องกึ่งงอนเล็กน้อยที่คนหน้าหวานจะรีบหนีกลับบ้านไปเสียเฉยๆแบบนี้
"ถ้าอยากให้ฉันไปก็ต้องไม่ไปสวนสนุกแต่ต้องไปตามที่ฉันอยากไป โอเคหรือเปล่าละ?"
ยื่นข้อเสนอใหม่ให้อย่างเป็นต่อเมื่อเห็นคนขี้โวยวายเริ่มจะสงบลงเล็กน้อย
"เเล้วเราจะไปที่.../บ้านนายชานซอง ฉันจะไปบ้านนายฉันจะอยู่กับนายจนถึงสี่ทุ่มเลยฉันสัญญา แต่นายต้องกลับบ้านไปนอนพัก เราไม่จำเป็นต้องไปสวนสนุกตอนนี้หรอกเพราะมันจะไปอีกเมื่อไรที่นายหายก็ได้ ฉันอยากให้นายพักมากกว่าดีไหม? แต่ถ้าไม่ตกลงสัญญาทั้งหมดก็เป็นอันว่าโมฆะ"
ในเมื่อการต่อรองแบบไร้โอกาศแก้ไขถูกวางอย่างบีบบังคับ แม้ชานซองจะอยากคัดค้านแต่ก็ไม่เห็นหนทางอื่นให้ไป ร่างสูงจึงจำก้มหน้ารับขอเสนอของนิชคุณอย่างเสียไม่ได้ ชายหนุ่มยอมลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อมุ่งหน้าตามนิชคุณกลับไปที่บ้านตัวเขาเองด้วยความจนใจ เอาเถอะถึงไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันที่อื่น แต่ได้นอนมองหน้าพี่ชายหน้าหวานคนนี้จนถึงมืดได้ สำหรับเขามันก็ถือว่าคุ้มมากแล้ว
.
.
กลับมาถึงห้องได้อ๊ก แทคยอนก็เจอเข้ากับความว่างเปล่าและเงียบสงบเท่านั้น ไม่มีใครอยู่ในบ้านหลังนี้แม้แต่คนเดียว ณ ตอนนี้ในบ้านหลังนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่ยืนอยู่ในบ้านที่ไร้สมาชิก2พีเอ็ม
"คุณยังไม่กลับงั้นหรอเนี่ย?"
ชักสีหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่ตนเองกำลังพูดนั้นออกไปพบกับใครอยู่เพียงแค่สองต่อสอง
ร่างสูงเดินตรงไปทิ้งตัวลงบนโซฟาเนื้อนุ่ม ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงเพื่อขับไล่ความสับสน และเรื่องราวที่กำลังขบคิดไม่เลิกหลังจากแยกกับพี่สาวตนเองมาตลอดจนกระทั่งถึงบ้าน
"บ้าเอ๊ย!นอนไม่หลับ"
ข่มตานอนอยู่ได้พักใหญ่แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากจะไล่ความคิดของตัวเองออกไปไม่ได้แล้ว การหลับตานอนหลับท่ามกลางความเงียบยิ่งช่วยเพิ่มความชัดเจนของเรื่องที่ตนเองกำลังคิดอยากขับไล่ออกไปจากสมองได้มากขึ้นอีกด้วย
"......"
ในเมื่อหลับไม่ได้ชายหนุ่มจึงเอาแต่นอนลืมตาโพร่งจ้องมองเพดานอยู่แบบนั้นไปอีกหลายชั่วโมง กว่าจะรู้สึกตัวอีกรอบก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่มแล้ว จึงรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในห้องของตัวในที่สุด
.
.
เดินเข้าห้องได้ก็เจอโทรศัพท์ของตัวเองวางนอนนิ่งอยู่บนเตียงหลังจากที่ตนรีบออกไปหาพี่สาวจัดจนกระทั่งลืมมันทิ้งเอาไว้ที่บ้านไม่ได้พกมันไปไหนมาไหนด้วยเป็นวันๆ
"116 สายไม่ได้รับงั้นหรอ?...พี่จุนซู"
กดเปิดเครื่องเช็คสายเข้าดู ร่างสูงก็ถึงกับผงะไปเมื่อพบว่าคนรักกระหน่ำโทรศัพท์หาตนเองเป็นร้อยสายเช่นนี้ ดังนั้นแทคยอนจึงรีบกดโทรกลับทันทีที่ตั้งสติได้ แต่ก็ปรากฎว่าอีกฝ่ายไม่ยอมรับโทรศัพท์ของตนเองแม้แต่สายเดียวเพราะปิดเครื่อง
"เอาไงดี...พี่จุนซูต้องเข้าใจผิดแน่ๆ ลองส่งข้อความไปบอกก็ได้ว่าไปหาพี่แล้วลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้บ้าน หวังว่าคงอ่านนะครับพี่จุนซูจะได้ไม่เข้าใจอะไรผิดให้มันแย่ไปกว่านี้"
ส่งข้อความไปหาคนรักเสร็จก็รีบกดโทรออกไปหานิชคุณต่อเพื่อบอกให้อีกฝ่ายเตรียมรับมือกับคิม จุนซูในกรณีพิเศษหากพี่ใหญ่ไม่ยอมอ่านข้อความแต่ตีความหมายขอการไม่รับสายจากเขาไปในทางที่ผิดๆ
"ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะคุณ?...พี่จุนซูจะทำอะไรนายระ.../ฉันจะทำอะไรงั้นหรอแทค?"
ยังบ่นไม่ทันจบคำ น้ำเสียงที่แสนคุ้นเคยก็ตัดประโยคขึ้นมาเสียดื้อๆ ใบหน้าเนียนโผล่ออกมาจากมุมมืดหลังบานประตูที่ปิดไม่สนิท คิม จุนซูมายืนมองคนรักของตัวเองที่ดิ้นเป็นเจ้าเข้าได้พักใหญ่ๆแล้วหลังจากเดินเข้ามาในบ้านอย่างเงียบเชียบ เพราะไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้ด้วยต้องการจับผิดใครบางคน แต่หลังจากไม่พบอะไรผิกปกติ นิชคุณไม่ได้อยู่กับแทคยอน จุนซูจึงเยียดยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจกับการผลตอบรับของตนเอง โดยลืมนึกไปว่าวันนี้อาจจะเป็นวันแรกที่ตนและคนรักแยกกันอยู่แต่ไม่ใช่คืนแรกที่แยกกันห่าง!
"ผมแค่กลัวว่าพี่จะคิดเป็นแบบอื่นจนพาลไปลงที่คุณเข้าน่ะครับ...แล้วนี่พี่มาจากแดกูเพื่อมาจับผิดผมถึงนี่เลยหรือครับ"
กดตัดสายที่กำลังโทรออกทิ้งอย่างไว แล้วรีบเดินมาหาคนรักเพื่อกอดเอาใจเพื่อไม่ให้จุนซูต้องอารมณ์ฉุนเฉียว หากอีกฝ่ายอยู่ในภาวะไม่ปกติ
"แล้วคิดว่ายังไงละ?...นายก็รู้ว่าฉันขับรถไม่คล่องแต่ก็ยังดั้นด้นมาถึงนี่ น่าจะรู้นะว่าเพราะอะไร? หมดเรื่องแล้วฉันกลับก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่จินยองรู้ว่าฉันกลับมาที่นี่ในระหว่างที่โดนลงโทษ แทนที่จะได้กลับตามเวลาเหมือนคนอื่น อาจจะถูกลงโทษให้อยู่แดกูยาวกว่าเดิม จนพาลให้ลูกหนูบางตัวดีใจจนเนื้อเต้นที่แมวไม่อยู่นานกว่าเดิมเอา"
รอยยิ้มทีเล่นทีจริง ที่ยิ้มไปไม่ถึงดวงตา นับวันคิม จุนซูก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆในสายตาของอ๊ก แทคยอน
"ดะ...เดี๋ยวจะกลับแล้วหรือครับ"
มองตามหลังจุนซูอย่างอึ้งๆ ไม่มีคำเริ่มต้นและเอ่ยลากันดีๆแม้แต่คำเดียว อีกฝ่ายก็จะกลับแล้ว โดยไม่รู้ที่มาและที่ไป ร่างสูงรีบเดินตามคนรักไปติดๆก่อนจะรั้งเอวคอดเอาไว้เพื่อให้หันมามองหน้ากัน
"ใช่...กลับแล้ว ฉันขอโทษแทคที่ไม่ไว้นาย ฉัน...เสียใจที่เราเอาแต่ระแวงกันเอง ต่อไปเราจะมีแค่กันและกันใช่ไหมนายจะไม่ปันใจไปให้คนอื่นอีกใช่หรือเปล่า?"
ยอมหันกลับมากอดตอบอีกฝ่ายอย่างช้าๆ แล้วกดใบหน้าลงซุกคนแผ่นอกกว้าง คล้ายจะสำนึกผิดที่ทำตัวร้ายกาจออกไป เพื่อให้แทคยอนเห็นใจกับการกระทำที่เกินเลยของตัวเองและให้อภัยกัน
"พี่จุนซู...ผม"
สีหน้าหนักใจปรากฎเด่นชัดบนใบหน้าหล่อเหลาทันทีที่ฟังในสิ่งที่จุนซูพูดจบ เขายังไม่ทันได้ตอบรับคนรักไปหากแต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธเช่นกัน
"ไม่เป็นไรแทค ไม่เป็นไร...ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องไปส่งหรอกนะ ฉันอยากเดินกลับเงียบๆคนเดียวมากกว่าน่ะ ขอโทษนะที่มารบกวน"
เงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาขึ้นมองสบกับคนตัวสูงก่อนจะรั้งให้ใบหน้าคมโน้มลงมาประทับจูบอย่างน่าเห็นใจยิ่งนักในสายของแทคยอน ดวงหน้าเนียนเผยรอยยิ้มหวานอย่างน่ารักเพื่อเอาอกเอาใจคนตรงหน้า แล้วมองร่างสูงด้วยสายตาที่แสนรักหนักหนา ก่อนเดินออกจากประตูไปในที่สุด
"อะไรคือตัวตนของพี่จริงๆกันแน่ครับ พี่จุนเป็นพี่จุนซูที่น่ารักคนนี้หรือจุนซูที่น่ากลัวกันแน่ ผมสับสนไปหมดแล้ว พี่จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ไปถึงเมื่อไรกัน?"
ถอนหายใจอย่างคิดไม่ตก เขาเดาอะไรไม่ได้เลย เพราะเริ่มที่จะแยกไม่ออกว่าคนไหนคือคิม จุนซูตัวจริงกันแน่ ถ้าคนคนนี้คนที่ยืนร้องไห้อยู่หน้าประตูคือคิม จุนซูตัวจริงแล้วเมื่อกี้หรือก่อนหน้านี้คิม จุนซูคนนั้นเป็นใครกัน?
"ออกไปหาเหล้ากินย้อมใจดีกว่า!"
ในเมื่อคิดไม่ตก และยังหาทางออกที่ดีที่สุดไม่ได้ในกับความโลเลของตัวเอง การลืมแบบไร้สติจึงกลายเป็นที่พึ่งสำหรับแทคยอนไปในบัดดล
.
.
"น่าเสียดายที่แผนยาเบื่อหนูไม่ได้ใช้...เอาเถอะ แต่ดูเหมือนกับดักหนูจะเริ่มทำงานได้ดี ราวนี้ก็รอดไปนะ...เกือบลงมือไปแล้วไหมละ"
ผงไซยาไนด์หรือที่รู้จักกันในนามยาเบื่อหนูถูกโยนทิ้งออกนอกหน้าต่างเพื่อทำลายหลักฐาน ไซยาไนด์สารเบื่อหนูในรูปแบบไร้กลิ่น ไร้รสหากใส่ให้กินในปริมาณน้อยมีผลทำให้ชักและอาจทำให้เป็นอัมพาตชั่วคราว แต่ถ้าใส่ในปริมาณพอควรก็แรงพอจะฆ่าคนได้โดยทำให้ระบบหัวใจล้มเหลวและตายลงในที่สุด!
จุนซูเปลี่ยนสีหน้าเป็นคนละคนอีกครั้งเมื่อขึ้นมานั่งอยู่เพียงลำพังบนรถ หยอดน้ำตาถูกปาดซับออกอย่างไม่ใส่ใจ อ๊ก แทคยอนคนโง่ แค่เห็นน้ำตากับท่าทางน่าสงสารของเขาคนนี้ก็เริ่มสับสบ ไม่ได้รู้เลยซินะว่าถูกใบหน้าคนดีที่น่าสงสารหลอกล่อให้ตายใจอยู่ และสับสนอยู่อย่าหวังว่าจะหลุดออกจากพันธการของคิม จุนซูคนนี้ได้ง่ายๆนะ ไม่มีทางและไม่มีวันด้วย ในเมื่อเลือกตนแล้วก็ต้องเป็นเพียงของตน จะหลุดพ้นกันไปได้ก็แค่ตายจากกันเท่านั้น ถ้าหักหลังกันตนก็จะเล่นงานให้ถึงที่สุด โดยไม่เลือกวิธีทั้งแทคยอน ทั้งชู้มันนั้นแหละ!
.
.
"ฉันต้องกลับแล้วชานซองนี่มืดมากแล้ว นอน...อ้าว?"
กำลังจะหันมาบอกลาชานซองคนพูดมากก็กลับต้องอมยิ้มออกมาแทน เมื่อคนช่างเจรจาเมื่อครู่จู่ๆก็กลายร่างเป็นหมีจำศีลไปเสียเฉยๆ เมื่อครู่ยังจ้อกับตนไม่หยุดทั้งยังบอกว่าจะพาตนไปส่งที่บ้านพักอีกด้วย แต่ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีก็กลับหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากยาแก้ไข้จึงทำให้ในที่สุดเด็กดื้ออย่าง ฮวาง ชานซองก็นิ่งสงบลงได้
"ฉันกลับก่อนนะเด็กโง่"
ฝ่ามืออันอบอุ่นลูบลงบนศีรษะของร่างสูงเบาๆ ใบหน้าหวานมองจ้องเด็กรูปหล่ออย่างพินิจพิเคราะห์ ถ้าเขารักฮวาง ชานซอนคนนี้แทนอ๊ก แทคยอนชีวิตเขาในวันนี้มันคงจะดีไม่น้อย คงมีความสุขอย่างที่หาแทบไม่ได้ในช่วงเวลาปัจจุบัน ถ้าเขาบังคับหัวใจตัวเองได้เขาจะรักเด็กหนุ่มคนนี้อย่างไม่มีข้อสงสัยเลยจริงๆ แต่ในความจริงเป็นหัวใจของเขามันมอบให้แทคยอนไปแล้วเกือบทั้งหมด และไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าจะได้มันกลับคืนมาหรือไม่ แม้จะไม่มีวันกลายเป็นคนรักกันได้ก็ตามที
.
.
ทั้งบรั่นดี ทั้งเหล้า เบียร์และวอดก้าถูกกรอกเข้าริมฝีปากของอ๊ก แทคยอนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง จนพาเอาคนรูปหล่อถึงกับเริ่มออกอาการเป๋ๆเล็กน้อย ตั้งแต่ที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาในผับดังย่านกังนัม ก็พาเอาหนุ่มหน้าใสและสาวหน้าสวยเล็งน้องร้องดังรูปหล่อหวังควงขึ้นเตียงกันเป็นแถบๆ หากแต่แทคยอนก็กลับสนใจไม่ ร่างสูงทำเพียงแค่นั่งลงที่มุมของร้านเงียบๆและเริ่มสั่ง แอลกฮอกล์กรอกเข้าปากตัวเองเรื่อยๆเพื่อช่วยให้ลืมเรื่องราวที่แสนทุกข์ใจ
"คุณแทคยอนนักร้องวง2พีเอ็มหรือเปล่าคะ ขอนั่งด้วยได้หรือเปล่าเอย?"
สาวน้อยรูปร่างอ้อนแอ้นอรชรนางหนึ่งใจกล้าเดินเครื่องชนหมายจะจับนักร้องรูปหล่อขึ้นเตียงวันนี้ให้จงได้ สะโพกมนรีบนั่งลงเบียดกับชายหนุ่มโดยไม่รอการตอบรับ ก่อนจะพยายามงัดเอามารยาร้อยเล่มเกวียนมาใช้เพื่อมัดใจร่างสูงให้อยู่หมัด
"นั่งได้นะ แต่ออกห่างไปนิดก็ดีครับ"
ขยับตัวออกห่างหญิงสาวที่เริ่มทอดสะพานให้เขาจนเกินเหตุ ร่างสูงมองจ้องไปที่หน้าอกหน้าใจไซส์บิ๊กที่คนงามตั้งใจแหวกออกจนเห็นไปถึงไส้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"แหม!ในนี้มันหนาวจะตายไป ก็ต้องนั่งใกล้ๆกันเอาไว้ซิคะ"
ไม่พูดเปล่ามือน้อยๆทั้งสองข้างของหญิงสาวยังเริ่มเกาะเกี่ยวแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างถือวิสาสะทันที
"คุณ...โทรศัพท์ผมมาปล่อยมือก่อนจะได้ป่ะครับ?...ว่าไงครับใครจะคุย?"
ดึงแขนของตนเองออกจากหญิงสาวผู้เปรียบเสมือนปลาหมึกได้ ก็กดรับโทรศัพท์โดยไม่ทันได้มองที่หน้าจอว่าใครโทรมาหากัน
"หืมคุณงั้นหรอ?ฉันอยู่ที่ผับแถวกังนัม มาปลดปล่อยอารมณ์เครียดนิดหน่อยน่ะ อีกเดียวก็คงจะกลับแล้ว...เฮ้ยทำอะไรอ่ะ!"
ยังคุยกันไม่ทันจะรู้เรื่องแทคยอนก็ต้องโมโหออกมาทันที เมื่อสาวน้อยที่นั่งคลอเคลียอยู่ข้างกายแบบไม่ได้รับเชิญดึงโทรศัพท์ของตนเอาไปกดตัดสายทิ้งหน้าตาเฉย
"เอาแต่คุยกับเพื่อนอยู่ได้ หันมาสนใจฉันดีกว่าตั้งเยอะ น่าขึ้นไปสนุกข้างบนกันมีห้องให้นอนพักด้วยน๊า"
แม่เสือสาวรอไม่ไหวที่จะตะครุบเหยื่อ เพราะรู้ว่าแอลกฮอลก์จำนวนไม่น้อยถูกชายหนุ่มดื่มเข้าไป จึงกล้าจะเเสดงการกระทำอันอุจอาจด้วยคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่มีแรงต่อต้านตนเองได้
"ไม่ไป!ถ้าอยากมั่วมากไปมั่วกับคนอื่นเถอะครับ ผมไม่มีอารมณ์ อีกอย่างผมไม่ชอบผู้หญิงแฟนผมเป็นผู้ชายแท้ๆยังดูสวยดูน่ารักกว่าคุณเป็นร้อยเท่า เพราะงั้นช่วยออกไปให้ห่างๆผมจะได้ป่ะครับ น่ารำคาญ!"
.
.
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ?...แทค...แทค...อ๊ก แทคยอน!"
นิชคุณที่กลับมาถึงบ้านก็ไม่พบร่างสูงอยู่ เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาค่อนข้างมืดมากแล้วแต่ไม่มีวี่แววว่าแทคยอนจะกลับมาเลยแม้แต่น้อยจึงตัดสินใจลองโทรหา และทันทีที่ชายหนุ่มรับโทรศัพท์ตนก็รู้ว่าคนที่กำลังพูดจาโต้ตอบกับเขานั้นเมามากแค่ไหนแล้ว
"ทำไมถึงตัดไปละ...กังนัมงั้นหรอ?"
คว้ากระเป๋าสตางค์ได้ก็ออกเดินทางไปยังย่านท่องเที่ยวยามราตรีแถวกังนัมแบบไม่ต้องคิดให้ยาก เพราะร้านประจำที่เหล่าสมาชิกเจวายพีนิยมไปมีเพียงร้านเดียวเท่านั้นในย่านกังนัมสไตล์
.
.
"เป็นเกย์งั้นหรอ? ก็ดีซิเดี๋ยวจะทำให้เลิกเป็นไปเลยไอ่โรคเกย์เนี่ย!"
แทนที่จะตกใจหนีกลับกลายเป็นเรื่องท้าทายไปเสียแทน ในมุมลับตาคนแบบนี้จะมีอะไรกันก็แทบไม่มีคนสังเกตุหรือสนใจซะด้วยซ้ำ คิดได้แบบนั้นใบหน้าที่แต่งเเต้มไปด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจึงโน้มตัวเข้ารุกไล่ ใบหน้าหล่อเหล่าที่เริ่มออกอาการมึนเบลอเพราะฤทธิ์แอลกฮอกล์
"ทำอะไรกันอยู่หรอ?"
ชายหนุ่มหน้าสวยตัวเล็กยืนเท้าสะเอวเอ่ยปากถามหญิงสาวที่กำลังพยายามจะตะครุบเหยื่อด้วยสีหน้ารังเกียงเดียจฉันท์ ริมฝีปากสีแดงจัดเบ้ลงมากกว่าเดิมเมื่อมองเห็นการแต่งตัวที่เหมือนหญิงขายบริการมากกว่าหญิงสาวชอบที่เที่ยว ก้นน้อยๆของคนตัวเล็กรีบแทรกตัวเข้าไปนั่งกั้นระหว่างหญิงสาวกับชายหนุ่มเพื่อกันท่าไม่ให้ผู้หญิงสำส่อนเข้าใกล้นักร้องหนุ่มหล่อมากกว่าเดิม
"แล้วแกเป็นใครมายุ่งอะไรด้วย?"
ผละตัวออกห่างจากชายหนุ่มร่างเล็กที่เดินลงมานั่งกั้น ก่อนแสดงท่าทางกริ้วโกรธที่ผู้ชายหน้าหวานนี่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องของตนเอง
"เป็นเพื่อนกับพี่แทค ชื่อ โจ ควอน นักร้องวง2เอเอ็ม รู้จักมะ?"
เชิ่ดหน้าขึ้นอย่างถือตัวเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ดวงตารีเหล่มองใบหน้าสวยๆนั้นอย่างนึกรำคาญ แค่นี้ก็ไม่รู้จักหรือยังไงกัน เขาดังออกจะตายไปกั๊บควอนคนนี้น่ะ
"2เอเอ็มงั้นหรอ?/ ครับขอโทษทีแต่คุณช่วยออกไปจากโต๊ะพวกเราซะทีจะได้หรือเปล่าครับ คนอื่นๆที่เขารู้จักกันเขาจะนั่งน่ะครับ"
ชางมินเอ่ยปากไล่หญิงสาวกลายๆอย่างสุภาพ แว่นกรอบสี่เหลี่ยมขยับไปมาเล็กน้อยพอแสดงอาการให้รู้ว่า...กูรำคาญ...แบบไม่ต้องใช้เสียง โดยที่ด้านหลังพี่ใหญ่แห่งวันเดย์มีซึลองและจินอุนพยักหน้าตามมาติดๆ
"พวกบ้า!"
กระทืบเท้าด้วยความขัดใจก่อนเดินออกจากวงล้อมของกลุ่มบุคคลผู้ไม่ต้อนรับตัวเองทันที
"แกน่ะซิบ้า!...บ้าผู้ชาย แหวะ!"
ควอนขนลุกซู่เมื่อนึกถึงตอนต่อไปว่าถ้าหากพวกเขาไม่นึกครึ้มอกครึ้มใจออกมาดื่มกันในวันนี้ คนขี้เมานี่จะถูกกระทำชำเราอะไรบ้าง แค่คิดก็สงสารอนาคตพี่ชายรูปหล่อเสียแล้ว
"ไอ่แทคมันดื่มหนักอะไรขนาดนี่วะเนี่ย? ได้ข่าวอยู่ว่าโดนลงโทษแต่มันก็ไม่น่าจะหนักจนต้องกลุ้มขนาดนี้เลยนี่หว่าหรือว่า?"
หยิบขวดแอลกฮอลก์สารพัดยี่ห้อขึ้นมาส่องดู พร้อมมองสลับไปมาระหว่างขวดและแทคยอน ซึลองถอนหายใจออกมาน้อยๆ เมื่อพอจะเดาได้ว่าคงไม่พ้นเรื่องหัวใจแน่ถึงได้ทำเอาแทคยอนมันเป็นหนักขนาดนี้
"โทรศัพท์พี่แทค พี่คุณโทรเข้ามาละ"
จินอุนหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะมาอ่านดูก่อนจะยัดใส่มือชางมินเพื่อให้พี่ใหญ่เป็นคนจัดการ
"คุณหรือนี่พี่ชางมินนะ แทคมันมาเมาเป็นหมาตัวผู้จนเกือบโดนหมาตัวเมียสอยไปแล้ว เนี่ยดีที่พวกพี่มาเจอเข้าไม่งั้นซวยแน่ อยู่ไหนละรีบๆมารับมันกลับไปเลยนะ พวกพี่อยากสนุกแบบไม่มีตัวภาระอ่ะ อยู่ผับประจำพวกเรานั้นแหละโต๊ะในสุดมาเร็วๆละ ถ้ามาช้าทิ้งให้หมาตัวเมียคาบไปกินนะเฟ้ย!"
พูดติดตลกก่อนจะวางสายไป ดูเหมือนคนในสายจะร้อนใจรีบรับปากรับคำตนแทบไม่ทัน นี่ถ้าไม่รู้ว่าแทคยอนมันเป็นแฟนกับจุนซูเขาคงนึกว่านิชคุณเป็นแทนไปเสียแล้วเห็นห่วงกันยิ่งกว่าอะไร
"คุณว่าไงบ้างพี่? /เดี๋ยวจะรีบมาเห็นว่าใกล้จะถึงแล้วละ"
ซึลองพูดกับชางมินไปก็ยกมือเรียกบริกรให้เดินมาเคลียร์ขวดเหล้าบนโต๊ะไปด้วย ชายหนุ่มทั้งสองหันไปมองหน้าไม่ได้สติของตัวแทนไอดอลสัตว์ป่าอย่างปลงๆ
"โอ๊ย!เหม็นเหล้าอ่ะ จินอุนแกลากพี่แทคไปไกลๆฉันซิ ดูจนกว่าพี่คุณจะมารับกลับบ้านไปนะ เห็นแล้วหมดอารมณ์เลยอ่ะ"
ทำทีเป็นเอานิ้วอุดรูจมูกตัวเอง เเล้วดันพี่ชายตัวโตไปทางจินอุนที่นั่งมองอย่างงงๆหลังถูกผลักภาระมาให้รับผิดชอบแบบไม่ทันตั้งตัว
"พี่ชางมิน พี่ซึลอง ควอน จินอุน หวัดดีทุกคน"
จินอุนยิ้มตาหยีออกมาทันทีที่เห็นว่าใครเป็นพูดสวัสดีพวกเขา ในที่สุดภาระก็ไม่ได้ตกมาถึงจินอุนคนนี้เพราะคนที่จะมารับภาระไปแทนอย่างนิชคุณวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงในที่สุด
"เร็วนี่หว่า...นั้นเอามันไปเลย ว่าแต่แบกมันไปไหวป่ะ ถ้าไม่ไหวก็ให้จินอุนมันช่วยนะ"
ชางมินโบ้ยงานให้น้องเล็กต่อจากควอน แต่ก่อนที่จะคุณจะบอกลาซึลองก็เรียกให้คนหน้าหวานนั่งลงเพื่อคุยกันก่อนซักพัก
"แทคมันเป็นอะไรของมัน? ปกติมันไม่เคยมากินเหล้าคนเดียวแถมเมาไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก ในวงมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคุณ?"
ออกปากถามอย่างเป็นห่วงเพราะขึ้นชื่อว่าวันเดย์แล้วพวกเขาก็เหมือนพี่น้องกันจริงๆ จึงไม่แปลกถ้าจะเป็นห่วงเป็นใยถึงสถานการณ์ของแต่ละคนภายในกลุ่ม
"ไม่มีอะไรครับเราเคลียร์กันได้แล้ว แต่เรื่องที่แทคมาเมานี่ผมไม่รู้จริงๆพี่ซึลอง ขอโทษครับผมว่าผมรีบกลับดีกว่า พวกเราโดนลงโทษอยู่ถ้าพี่จินยองรู้เรื่องแทคเข้ามันจะยิ่งไปกันใหญ่"
หลบสายตาจับผิดของเหล่า2เอเอ็มอย่างลำบากใจ แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องไปเป็นอย่างอื่นเพื่อหันเหความสนใจของเหล่า2เอเอ็ม
"เอ่อวะ!รีบไปเหอะไป จินอุนไปส่งดิ!"
ซึลองเป็นที่สามที่ผลักภาระไปให้น้องเล็ก สรุปในวงจะไม่มีใครรักน้องชายตัวโตๆแบบเขาเลยซักคนเลยใช่ป่ะเนี่ย?
"ขอบใจนะจินอุน"
นิชคุณยิ้มหวานพร้อมตบบ่าให้กำลังใจเด็กชายตัวโต จนคนได้รับรอยยิ้มถึงกับเคลิ้มลอยกับรอยยิ้มนั้น ถ้าตนเต้นเก่งกว่านี้อีกนิดจะบอกพี่จินยองให้ย้ายไปพีเอ็มซะเลยดีไหม?
"ผมว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าที่เราเห็นแน่ๆพี่ๆว่างั้นไหม?"
โจ ควอนลอบสังเกตุคำตอบและพฤติกรรมของนิชคุณพูดขึ้นกลางวงสนทนาหลังจากที่นิชคุณพาแทคยอนกลับบ้านโดยมีจินอุนเดินตามไปส่งขึ้นแท็กซี่
"อืม...ดูก็รู้แต่อย่าไปยุ่งเลยวะท่าทางจะไม่ใช่เรื่องเขาพวกเรา กินขนมต่อไปเหอะเราอ่ะ เหล้าก็กินไม่เป็นแล้วอยากจะออกมาเที่ยวเล่นทำไมด้วยก็ไม่รู้!"
วางขนมหลอกเด็กไว้ตรงหน้าโจ ควอน ตะกร้าใหญ่ๆ ก่อนจะหันไปสนใจสาวๆภายในผับแทนเด็กกั๊บฝั่งตรงกันข้าม โดยไม่ลืมหันไปชนแก้วกับซึลองอย่างสนุกสนาน ลืมเรื่องแทคยอนคนขี้เมาไปเสียสนิท
-TBC#9-
TALK :: มาแบบยาวๆตอนนี้พอดีแต่งแล้วติดลม แต่งตั้งแต่สิบโมงพักไปตอนเที่ยงถึงบ่ายสองสิริรวมเวลา4ชั่วโมงในการแต่ง ตอนนี้แทคเกือบโดนชะนีเขมือบน่ากลัวจริงๆเราคิดภาพเองยังขนลุกผู้หญิงแบบนี้มีจริงๆนะ โครตน่ากลัวเลย เราเคยเห็นคนไทยด้วยกันนี่แหละที่เขียนมาไม่เกี่ยวไรกะฟิคแค่อยากเล่าให้ฟัง หึหึหึ ช่วงนี้ฝนตกๆหยุด ลมฟ้าอากาศช่างน่ากลัว แลดูและดูแลสุขภาพกันด้วยนะ
ปล.ตอนนี้2เอเอ็มมาวิ่งเล่นในฟิคพร้อมชะนีไร้ชื่อ อย่าได้ถือสาชะนีนางนั้น เพราะเราก็ไม่รู้ว่านางเป็นใครแต่ที่รู้จู่ๆก็อยากเขียนเลยใส่นางไปซะก่อนจะให้ควอนนี่จัดการ ชอบจริงๆคะแรกเตอร์ของควอน บ่นเยอะแล้ว เจอกันตอนใหม่ ไม่น่าเชื่อว่าจะแต่งมาถึงตอนนี้แล้วเก่งจริงๆตัวเรา!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น