วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

LAST 7 :: TK

FIC :: LAST 7

COUPLE :: TK


-7-


ผิวกายขาวเนียนผุดผ่องสู้กับแสงจันทร์ ใบหน้าหวานหลับตาพริ้มแม้ดวงตาที่กลมโตจะปิดหลับและคลอไปด้วยรอยน้ำตาจางๆแต่นั้นก็ไม่ทำให้ความงามราวกับรูปปั้นวีนัสราคาแพงดูด้อยค่าไปแม้แต่น้อย กลับยิ่งสวยงามมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวนัก ในสายตาของอ๊ก แทคยอน นิชคุณ คือวีนัสสำหรับเขาเสมอ สวยงาม อ่อนหวาน และแสนดีไม่เคยเปลี่ยน แม้ว่าเขาจะเป็นคนเลวที่แย่งจุนซูมาจากนิชคุณเองกับมือก็ตาม แต่คนคนนี้ก็ทำเพียงแค่ยิ้มรับ ไม่เคยเอ่ยปากว่า ทั้งยังยอมให้ตนถือสิทธิ์ครอบครองทั้งร่างกายจนกระทั่งเลยไปถึงจิตใจโดยไม่คิดทำร้ายเอาคืนอ๊ก แทคยอนคนนี้ซักนิด เป็นเขาเพียงคนเดียวที่ทำมันให้ร้ายแรงขึ้นจนไม่อาจกลับมาเป็นดังเดิมได้อีกต่อไป...

.

.

“แทคตื่นเถอะ พี่สาวนายโทรมา”
ปลายนิ้วแตะสัมผัสเข้าที่ต้นแขนแกร่ง ก่อนจะออกแรงเขย่าเบาๆพอให้คนนอนหลับสนิทรู้สึกตัว โทรศัพท์ราคาแพงของร่างสูงถูกยื่นใส่หน้าแทคยอนอย่างเงียบๆ พร้อมกับใบหน้าสวยที่ดูจะตลกกับท่าทางการนอนหลับของคนปลุกยากเช่นแทคยอนยิ่งนัก

“หืม?...พี่งั้นหรอ?”
ชายหนุ่มรับโทรศัพท์มากำเอาไว้ชั่วครู่ เพื่อรวบรวมสติที่หลุดกระจายไปไกลให้คืนมาโดยด่วน แล้วตั้งต้นคุยกับนูน่าผู้ที่ตนเองเคารพด้วย สตังที่ยังไม่สามารถเรียกคืนมาได้ครบร้อยอย่างมึนงง

“บินมาวันนี้หรอครับ? ก็ได้ครับ...แล้วเจอกัน”
กดตัดสายทิ้งอย่างลวกๆ แล้วปิดการรับรู้ใหม่อีกครั้ง เตรียมตัวนอนหลับอย่างคนขี้เซา จนร่างโปร่งที่นั่งอยู่บนเตียงเคียงข้างกันมาตลอดต้องรีบดึงหมอนรองออกจากศีรษะแทคยอนทันทีที่เห็นว่าร่างสูงคิดจะทิ้งความคิดลงกับหมอนและเตียงนอนนุ่มๆอีกระลอก


“หยุดนอนได้แล้วแทค ...พี่สาวนายกำลังจะมาถึงนายจะเอาแต่นอนไม่ได้นะ!”
เอ่ยปากดุคนขี้เซาอย่างไม่จริงจังนัก แล้วรีบดึงแขนชายหนุ่มผิวเข้มให้ลุกขึ้นจากเตียงด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี จนพาลล้มลงบนเตียงนอนทาบทับคนตัวใหญ่กว่า ทันทีที่แทคยอนรู้สึกตัวและออกแรงกระชากให้อีกฝ่ายล้มลงมานอนด้วยกันที่เตียงนุ่ม

“ทำไมต้องรีบด้วยคุณ? พึ่งจะ 9 โมงเองนะ นอนกอดกันอีกชั่วโมงยังได้เลยจริงไหม?”
ไม่พูดเพียงแค่ปากเปล่า แต่การกระทำยังคงตามมาเร็วติดๆพอกับคำพูด อ้อมกอดอันแข็งแรงตวัดรวบที่เอวคอดแล้วดันให้ผิวกายขาวประชิดกันรับรุ่งอรุณ ริมฝีปากจุมพิตที่แก้มเนียนซ้ายทีขวาทีคล้ายจะกลั่นแกล้งคนชอบปลุกให้รู้สึกดีไปกับการออดอ้อนขอความเห็นที่แสนหวานของตัวเอง

“พอเถอะแทค!...ฉันช้ำไปหมดทั้งตัวแล้วนะ เมื่อคืนนาย...ไม่หยุดเลย บอกให้พอ...กะ...ก็ยังทำ...เจ็บไปหมดแล้ว”
พูดไปก็หลบสายตาคนฟังด้วยความขลาดเขิล เขาไม่อยากพูดอะไรที่น่าอายแบบนี้นักหรอกนะ แต่ถ้าเขาไม่พูดอีกฝ่ายก็คงจะขืนทำทั้งๆที่ยังเช้าขนาดนี้ได้อีกรอบแน่ จึงจำใจต้องเอ่ยออกมาตรงๆ

“อ้อ...โทษทีฉันไม่ได้แตะนายมานาน มันก็เลย....อ่ะนะ...คิดถึงมากไปหน่อย”
พูดไปก็คิดตามอย่างเห็นด้วยไปในที เขาไม่ได้สบตาหรือแตะเนื้อต้องตัวนิชคุณมานานเป็นอาทิตย์นั้นทำให้ชายหนุ่มอย่างเขาต้องอัดอั้นเป็นธรรมดา เมื่อคืนก็เลยเผลอทำรุนแรงออกไปเล็กนิดเพราะหักห้ามใจของตัวเองไม่อยู่ ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่นิชคุณร้องขอให้หยุดแต่เขาก็ยังทำ นั้นทำให้เขาไม่แปลกใจเท่าไรที่อีกฝ่ายจะช้ำกับความรักที่เขามอบให้เรือนกายหวานหอมมากจนเกินควร คิดแล้วตนก็รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้

“ไม่เอาแล้วเลิกคุยเรื่องแบบนี้เถอะ!...ไปอาบน้ำแทคเดี๋ยวฉันดูชุดที่นายจะใส่ให้”
ผลักประเด็นที่แสนน่าอายออกจากความคิดของตนและร่างสูง ก่อนจะดันหลังชายหนุ่มให้เดินออกจากห้องไปอาบน้ำเสียให้เสร็จสิ้น จะได้ไม่เผลอตัวคิดอะไรลามกแบบนี้แต่หัววัน

“โอเคก็ได้! ว่าแต่ว่านายสนใจไปอาบกับฉันหรือเปล่าละคุณ?”
กับนิชคุณคนดีคงไม่คิดอะไรกับเรื่องไม่เป็นเรื่องตั้งแต่เช้า แต่กับอ๊ก แทคยอนนั้นคนละคนกัน ถึงต่อให้พูดเลยป้ายรถเมล์ไปเป็นสิบป้ายลงเอยสุดท้าย เขาก็สามารถวนย้อนกลับมาจอดได้ที่ป้ายเดิม เรื่องเดิมทุกครั้งที่เขาอยากนั้นแหละนะ


“....../โอเค...ยอมแพ้แล้ว อาบคนเดียวก็ได้น่า~”
ริมฝีปากแดงจัดไม่ได้เอ่ยปากโต้ตอบอะไรออกมา ได้แต่ขบเม้มเอาไว้แน่นๆ เพราะกลัวว่าหากพูดอะไรออกไป ร่างสูงก็คงจะนำมันไปตีความได้ร้อยแปด จากนั้นคงต้องต่อความยาวสาวความยืดให้กันอีกไม่รู้จักจบจักสิ้น จึงได้แต่นิ่งเงียบและส่งสายตาตำหนิแทคยอนออกมาจนอีกฝ่ายยอมรามือเดินเข้าห้องน้ำไปเอง

“เฮ้อ...คุณเอ๊ยคุณ...นับถอยหลังความสุขที่กำลังจะหายไปให้จำขึ้นใจ อย่าได้หลงระเริงไปกับความสุขตรงหน้าจนลืมอนาคตที่แสนทุกข์ใจของตัวเองเสียละ 6 วันที่เป็นสวรรค์ กับหลังจาก 6 วันที่เหมือนตายทั้งเป็น...นี้มันคุ้มงั้นหรอที่จะแลกมันมา?”
หลังจากแน่ใจแล้วว่าแทคยอนเดินเข้าไปอาบน้ำจริงๆ นิชคุณก็ทิ้งตัวลงนั่งหมดแรงที่ข้างเตียงทันที ความทุกข์ที่ได้มาอย่างง่ายดายและเหลือล้น กับความสุขที่ได้มาอย่างยากเย็น ฉาบฉวยและระเหยจางไปในอากาศอย่างรวดเร็วจนเกินกว่าจะตั้งตัวพาเอากำลังใจของเขาถูกบั่นทอนลงอย่างน่าตกใจ ยิ่งเวลาเดินผ่านเข้ามาหาเขา ความรู้สึกผิดบาปและกลัวมันก็ยิ่งพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆจนตามติดดังเช่นเงาตามตัว เขาไม่สามารถสลัดมันออกจากความคิดได้แม้ซักเพียงวินาทีเดียว

.

.

“นายไม่ออกไปกับฉันจริงๆน่ะหรอ?”
กระดุมเม็ดสุดท้ายถูกติดที่เสื้อเชิ๊ตสีดำอย่างง่ายๆ แทคยอนมองจ้องนิชคุณผ่านภาพซ้อนของกระจกเงา สายตากึ่งถามกึ่งชักชวนให้ร่างโปร่งออกไปหาพี่สาวของเขาด้วยกัน หลังจากที่ตนและคนครอบครัวไม่ได้พบกันมานานพอควร

“ไม่ดีกว่า...นายไปเถอะ คนที่นายควรพาไปเจอน่าจะเป็นพี่จุนซูมากกว่าฉันนะ” 
เดินเข้ามาจัดปกเสื้อของแทคยอนให้เข้าที่และดูสง่าในระหว่างที่เอ่ยปากบอกความประสงค์ของตัวเองออกมา จนแทคยอนถึงกับนิ่วหน้าที่น้ำเสียงของคุณเริ่มออกอาการสั่นเล็กนิดเมื่อพูดถึงคิม จุนซูขึ้นมา

“คุณ”
ร่างสูงเรียกชื่อพร้อมเฉยคางมนให้ใบหน้าหวานหันกลับมาสบตากันและกัน แทนที่จะเอาแต่สนใจอยู่กับปกเสื้อของตัวเขาเองอย่างเดียว เพื่อเตือนอีกฝ่ายผ่านทางสายตาว่าในเวลานี้ ณ ที่แห่งนี้มีเพียงแค่ตนกับนิชคุณเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน ไม่มีคนอื่นให้ต้องกังวลใจ

“อีกอย่างฉันมีนัดแล้วน่ะนายไปเถอะ ฝากความคิดถึงให้นูน่าด้วยก็แล้วกันนะ”
รีบปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้กลับมาเป็นปกติที่สุดอย่างว่องไว ก่อนจะเอ่ยปากพูดถึงภาระกิจของตนเองในวันนี้ออกมาให้ร่างสูงฟังอย่างลืมตัว คำพูดที่ว่ามีนัดแล้วของนิชคุณพาเอาร่างสูงใคร่รู้เป็นอย่างมากว่าใครคือคนที่อีกฝ่ายนัดเจอ

“นัดงั้นหรอ?...นายมีนัดกับใครกัน?...หรือว่า...”
เอียงคอถามถึงบุคคลที่ 3 อย่างสนใจ ได้กลิ่นแปลกๆ เหมือนกับลางสังหรณ์ของตนเองจะเกิดแม่นยำขึ้นมาโดยใช่เหตุทั้งๆที่คนที่ตนกำลังนึกถึงจะไม่ใช่คนที่เขาอยากให้เป็นแม้แต่น้อยก็ตามแต่

“อืม...ชานซองน่ะ เรานัดกันว่าจะออกไปข้างนอกด้วยกันวันนี้ นายไม่ว่าอะไรใช่หรือเปล่า?”
เอ่ยถามเสียงขลาดกับร่างสูงตรงหน้า ใบหน้าหวานเสมองต่ำลงที่พื้นราวกับบนพื้นห้องมีของน่าสนใจอยู่เต็มประดาจนไม่อยากเงยกลับขึ้นมามองในระดับปกติ

“ก็แล้วถ้าฉันว่านายยังจะออกไปกับหมอนั้นหรือเปล่าละ?”
เว้นจังหวะรอเอาคำตอบที่รู้แน่อยู่แก่ใจว่า ต่อให้ตนห้ามนิชคุณก็ยังจะออกไปกับเด็กชานซองน้องชายสุดที่รักของร่างโปร่งอยู่ดี และก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ ใบหน้าหวานพยักหน้ารับออกมาน้อยๆโดยไม่ได้เอ่ยออกเสียง นั้นทำให้แทคยอนอารมณ์เสียขึ้นมาเบาๆ แต่เขาจะว่าอะไรอีกฝ่ายได้ในเมื่อสิทธิ์ในการตัดสินใจไม่ว่าจะในวันนี้หรืออนาคตของนิชคุณแล้วมันไม่ใช่เขาแต่เป็นตัวของนิชคุณเองต่างหาก ส่วนสิทธิ์ในการตัดสินใจของเขาวันนี้อาจจะเป็นของตัวเขาเองแต่ในวันข้างจะกลายเป็นของ คิม จุนซูแต่เพียงผู้เดียว

“ขอโทษนะแทค...ฉัน / ไม่เป็นไรไม่จำเป็นต้องขอโทษ เที่ยวให้สนุกละ ฉันต้องไปแล้วเดี๋ยวสาย!”
ปัดอารมณ์เสียใจและน้อยใจในตัวเองและนิชคุณทิ้งไปอย่างรวดเร็ว แล้วดึงเรือนร่างที่แสนรักมากอดหอมจนเต็มคราบ ก่อนจะเดินออกจากบ้านพักเพื่อตรงไปหาพี่สาวตนเองด้วยสีหน้าชิลๆ ไม่ยี่หร่าต่อความรู้สึกของตัวเองผิดกับหัวใจที่เจ็บปวดและกำลังบิดเบี้ยวอย่างผิดรูปร่างเข้าไปทุกทีกับการกระทำทั้งหลายแลของตัวเขาและคนรอบข้าง

“แทค”
รับรู้ได้ว่าชายหนุ่มกำลังเสียความรู้สึกและเจ็บปวด แต่นิชคุณก็จำต้องพูดออกมาตรงๆ เขาควรต้องทำแบบนี้ เพราะอนาคตกำลังเคลื่อนตัวมาหาเขาและแทคเร็วเต็มที เขาทั้งคู่ควรเริ่มทำใจและตั้งรับมันให้ได้ ส่วนชานซองเองก็ไม่ควรก้าวเข้ามาเกี่ยวข้องในวังวนน่ารังเกียจไม่มีสิ้นสุดนี้ด้วยเช่นกัน หรือถ้าจะเกี่ยวเขาก็ไม่ต้องการให้น้องเข้ามามีส่วนร่วมกับความเจ็บปวดของเขา หรือเขาต้องเป็นสาเหตุให้ชานซองต้องเจ็บปวด มันต้องไม่ใช่นิชคุณคนนี้อีกแล้ว!

.

.

ตั้งแต่เมื่อวานเขายังอดคิดถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ยอมหยุด เหตุและผลมากมายถูกอ้างเอิงใส่ความคิดเห็นของฮวาง ชานซองเองจนเขารับเกือบไม่ไหว จดหมายของคิม จุนซูถูกยกขึ้นมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก ภาพของแทคยอนและนิชคุณเองรวมทั้งคำพูดคำจาต่างๆก็ถูกรีรันขึ้นที่สมองเป็นร้อยๆครั้ง ตีกันมัวไปหมด จนเมื่อคืนเขาแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ยังฝืนสังขารลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปพบกับหัวใจของเขาเองเช่น...นิชคุณ...

“ปวดหัวชะมัด”
สะบัดหัวไล่ความมึนงงของตัวเองออกไป หลังจากมานั่งรอพี่ชายหน้าหวานที่ร้านคอปฟี่ช็อปใกล้บ้านพักได้ครู่ใหญ่ๆ กาแฟแก้วที่ 2 กำลังจะหมดลงอย่างช้าๆ เพื่อขับไล่ความง่วงและเบลอออกจากกาย

“รอนานหรือเปล่า?”
นิชคุณเดินผ่านลมหนาวของฤดูใบไม้ร่วง เข้ามาในร้านรูปร่างสูงใหญ่และโครงหน้าที่หล่อเหลาของชานซองจนตกเป็นเป้าสายตาของชายหนุ่มและหญิงสาวทั่วร้านทำให้นิชคุณมองหาเจ้าตัวได้ไม่ยาก 

“พี่กินข้าวเช้าหรือยังครับ?”
ทันทีที่นั่งลงตรงข้ามกัน ชานซองก็แสดงอาการเป็นห่วงเป็นใย นิชคุณออกมาอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ใส่ใจต่อสภาพของตนเองแม้แต่นิดแต่กลับสนใจแค่พี่ชายหน้าหวานเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ยังหรอก...รอกินพร้อมนายไง...ว่าแต่เมื่อคืนไม่ได้นอนงั้นหรือชานซองทำไมนายถึงดูเหนื่อยๆแถมหน้าซีดอีกต่างหาก?”
ส่ายหน้าปฎิเสธเรื่องอาหารเช้า ก่อนจะเอื้อมมือไปจับสัมผัสที่แก้มของชานซองเบาๆด้วยสีหน้าเป็นห่วง ด้วยชายหนุ่มมีสีหน้าที่ดูอิดโรยอย่างแรงจนน่าเป็นห่วง 


“นิดหน่อยครับพอดีมีเรื่องให้คิดเลยนอนไม่หลับ...ช่างมันเถอะครับ ผมเป็นห่วงพี่มากกว่าพี่โอเคหรือเปล่าอยู่กับพี่แทคแค่สองคนน่ะ?”
รวบเอามือขาวมาเกาะกุ่มเอาไว้แน่นแล้วสบจ้องเข้าไปในด้วยตากลมโตของคนตรงหน้า ใบหน้าคมเข้มดูเป็นกังวลอย่างจริงใจและดูห่วงใยนิชคุณจนคนถูกจ้องต้องหลบเลี่ยงสายตาด้วยความรู้สึกสะเทิ้นอายที่โดนจ้องโดยรูปหน้าหล่อจัดนี่เข้าแบบจังๆ

“อย่าจ้องแบบนี้ได้หรือเปล่า...จะจ้องให้ละลายเลยหรือไง?”
แกล้งเอ่ยติดตลกออกมาพร้อมหัวเราะน้อยๆให้อีกฝ่ายหยุดมอง แล้วดึงมือที่ถูกจับให้หลุดออกจากการเกาะกุ่ม แต่กับความรู้สึกที่เรียกว่าละลายนั้น แม้จะดูเหมือนเขาพูดให้มันตลกแต่กลับความเป็นจริงเขาก็รู้สึกแบบนั่นนั้นแหละ

“ถ้าผมทำให้พี่ละลายได้ผมก็อยากครับ โดยเฉพาะหัวใจ ผมอยากให้พี่ใจละลายเพราะผม”
พูดตามที่ใจอยาก พูดตามที่ใจคิด แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่า “ใคร” คือเจ้าของหัวใจของนิชคุณ แต่ในเมื่อเจ้าของหัวใจของพี่ชายหน้าหวานเองก็มี “เจ้าของ” อยู่แล้วมันจะผิดอะไรหากเขาจะอยากเข้าไปแทนที่คนคนนั้น

“...ชานซอง...”
อึ้งไปกับคำตอบของร่างสูง แค่ไม่กี่ชั่วโมง ทำไมเด็กหนุ่มตรงหน้าถึงได้กลายร่างเป็นชายหนุ่มไปเสียแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับเวลา และเกิดอะไรขึ้นกับ ฮวาง ชานซองกันแน่?

“ผมก็แค่อยากบอกพี่ จริงๆอยากบอกทุกวันเลยด้วยซ้ำครับแต่ผมรู้ว่าพี่จะรำคาญเอาเลยบอกเป็นรอบๆไปดีว่า แต่พี่ยังไม่ได้ตอบผมเลยนะครับว่าพี่โอเคหรือเปล่าที่อยู่กับพี่แทคเมื่อคืนนี้?”
ถึงจะเดาได้ไม่ยากว่าเรื่องมันจะดำเนินไปในทิศทางไหน แต่เขาก็อยากจะถามมันอยู่ดี รู้ว่าจะไม่ได้รับคำตอบที่เป็นคำตอบแท้จริงมาก็ไม่เป็น อย่างน้อยขอให้เขาได้รู้ ขอให้เขาได้ถาม และได้ยินมันออกมาจากปากของนิชคุณว่าสบายดี ไม่เป็นอะไร เขาก็พอใจแล้ว

“อืม...ไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไร ฉันเริ่มหิวแล้วละ สั่งอะไรกินเถอะ!”
พยักหน้ารับด้วยสีหน้าเรียบๆ ก่อนจะเลี่ยงคำถามและเปลี่ยนประเด็นไปเป็นอย่างอื่นเพื่อกันไม่ให้ชานซองวนกลับมาพูดเรื่องของแทคยอนซ้ำๆ เขาไม่ต้องการตอบคำถามอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้วสำหรับเรื่องของแทคยอนต่อหน้าชานซอง เพราะเขารู้ว่าชานซองรักเขาจึงทำให้ร่างสูงรับความรู้สึกของเขาได้ไวมากกว่าคนอื่นๆ และเขาต้องหลีกเลี่ยงมันให้มากที่สุด โดยไม่ล่วงรู้เรื่องว่ามันสายเกินไปเสียแล้วที่จะปิดบังกันต่อไป...

.

.

“เป็นอะไรไปแทค? เหม่อๆชอบกล? นานๆจะได้เจอพี่เจอเชื้อดูไม่ดีใจเลยนะเราน่ะ?หรือโดยเจ้านายลงโทษจนเบลอ?”
ประโยคคำถามหลุดออกมาเป็นชุด เมื่อพี่สาวสุดสวยของอ๊ก แทคยอนนั่งมองหน้าน้องชายสุดหล่อของตัวเองเหม่อมาเกือบชั่วโมงแล้ว 

“ห๊า? อะไรนะครับพี่ขอโทษทีพอดีผมไม่ได้ฟังน่ะ”
หลุดจากพะวงได้ก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วหันกลับมาสนใจใบหน้าบึ้งๆของพี่ใหญ่ตระกูลอ๊กเข้าอย่างจัง ร่างสูงจึงหน้าเจือนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าพี่สาวกำลังโกรธเขาเข้าจริงๆที่เขาทำเหมือนไม่ได้สนใจกัน

“แทค...ฉันกับนายเป็นพี่น้องกันมานาน ฉันคลอดก่อนนายแล้วนายก็คลอดตามฉันออกมา แถมฉันยังเลี้ยงนายมาด้วย ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าตอนนี้นายมีปัญหา ในฐานะที่ฉันเป็นพี่บังเกิดเกล้า ฉันขอบังคับให้นายเล่าเรื่องที่ทำให้นายไม่สบายใจ จนลืมสนใจพี่สาวคนนี้ออกมาซะ เร็วๆเลย!”
ใช้อำนาจของพี่สาวไปในที่ทิศทางที่คิดว่าถูกต้องโดยการบังคับบวกขื่นใจแทคยอนเล็กน้อยเพื่อให้ได้มาซึ่งขอเท็จจริงที่ตนต้องการ ไม่เคยมีซักครั้งที่อ๊ก แทคยอนเป็นแบบนี้เวลาที่ออกมาเจอกับคนในครอบครัวไม่ว่าจะที่ไหนหรือเมื่อไร น้องชายของตนจะต้องยิ้มและเริงร่าสดใสอยู่ตลอดต่อให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก็ตาม แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ตนเห็นแทคเหม่อลอย จึงไม่แปลกหากจะใช้คำว่า "โคม่า” สำหรับอาการของ อ๊ก แทคยอนในเวลาเช่นนี้

“ผม...ตอนนี้...คบกับพี่จุนซูเป็นคนรักอยู่...ครับ”
แทคยอนเริ่มต้นเล่าอย่างตะกุกตะกัก และนิ่งไปทันทีที่เห็นว่าพี่สาวของตัวเขาเองกำลังนั่งนิ่งทำหน้าตกใจแบบไหนอยู่

“ว่าไงนะ?...เป็นแฟนกับจุนซู ไม่ใช่คุณหรอ? ฉันนึกว่าแกชอบกับคุณอยู่ซะอีกนะ?”
ก็ที่ตนเห็นครั้งล่าสุดไม่มีอะไรให้ตนคิดซักนิดว่า แทคยอนรักกับจุนซู สายตาของน้องชายตนหลงรักแค่นิชคุณชัดๆ
ตนมั่นใจมากในจุดนี้แล้วทำไม?

“ใช่ครับ...ผมรักคุณ ตอนนี้ก็ยังรักอยู่ พวกเรา...คือ...นอนด้วยกันมานานแล้วครับ ก่อนที่ผมจะคบกับพี่จุนซูอีก”
ผลที่ตามออกมาคือดวงตาของนูน่าแทบถลึงออกจากเบ้าตาทั้งสอง นิ้วมือทั้ง 10 ยกขึ้นปิดที่ริมฝีปากของตัวเองอย่างอึ้งๆ หัวใจของสาวงามแทบจะตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มแต่ก็เลือกที่เงียบมากกว่าพูดเพราะรู้ว่าน้องกำลังจะเริ่มเล่าต่อแล้ว

“ตอนนี้ผมคบกับพี่จุนซูเป็นแฟน แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์เกินเลยกับคุณลับหลังพี่จุนซูอยู่ดี ผมคิดว่าผมจะยุติมันหลังจากที่ทุกคนหยุดได้รับโทษ 6 วันนี้เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่ผมกับคุณตกลงจะใช้เวลาทั้งหมดอยู่ด้วยกัน คุณเขาก็เห็นด้วยว่าควรหยุด แต่ผมแน่ใจว่าผมหยุดรักเขาไม่ได้แน่ต่อให้ความสัมพันธ์บนเตียงจะขาดไปก็เถอะ ผมแน่ใจว่าผมจะยังรักนิชคุณอยู่ ส่วนกับพี่จุนซูผมก็รักด้วย เพราะความนิสัยดีแล้วก็น่ารักผมถึงได้ตกหลุมรักพี่เขา แต่...”
แทคยอนเว้นวรรคเอาไว้เพราะเขาไม่ต้องการพูดต่อว่าเขาเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่าเขาควรรักจุนซูต่อไปเพราะความนิสัยดีและน่ารักของจุนซู หรือรักจุนซูเพื่อปกป้องนิชคุณกันแน่หลังจากได้รับข้อความอันตรายจากคิม จุนซูหลายต่อหลายครั้งเข้าเช่นนั้น

“แต่อะไร?....ฉันละอึ้งจริงๆนะ แกรักนิชคุณก่อนแล้วทำไมอยู่ๆแกถึงได้ไปคบกับจุนซูกันละฉันไม่เข้าใจ สายตาแกมองแค่นิชคุณคนเดียวมาตลอดนี่นา?”
มึนตึบกับเรื่องราวรัก 3 เศร้าของน้องชายตัวดี จนถึงกับเปลี่ยนสรรพนามเรียกน้อง อยากจะลุกขึ้นมาหาอะไรมาหวดกับความโลเลของน้องแต่ก็หักใจไว้เพราะรู้ว่ามันยังไม่จบเพียงแค่นี้

“ครับผมรักคุณ...แต่คุณรักพี่จุนซู...ส่วนพี่จุนซูผมคิดว่าพี่เขารักผมครับ ก่อนที่ผมจะตัดสินใจคบพี่จุนซูผมไปสารภาพรักกับคุณแต่ถูกพูดออกมาว่าเขาไม่ได้ชอบผมแบบนั้นเขารู้สึกกับผมเหมือนเพื่อนมากกว่า แล้ววันนั้นวันเดียวกันพอผมรู้ว่าพี่จุนซูชอบผม ผมก็ตัดสินใจคบกับพี่จุนซูเพื่อกันคุณออกจากพี่จุนซูครับ ผมรับพี่จุนซูเป็นแฟนทั้งๆที่รู้ว่าอีกวันคุณมีแผนจะสารภาพรักกับพี่จุนซู...ผมได้ยินมันหลังจากที่ผมถูกปฎิเสธความรัก ผมได้ยินที่คุณฝึกสารภาพรักกับพี่จุนซูตรงหน้ากระจก ความคิดเลวๆชั่ววูบนั้นทำให้ผมรับรักพี่จุนซูไป แต่พี่เขาก็น่ารักเสมอจนผมเปิดใจรักในความน่ารักของพี่เขาในที่สุด”
แทคยอนซบใบหน้าลงกับโต๊ะเมื่อพูดมาถึงจุดนี้ เขารักทั้งสองคนจริงๆ รักแบบคนรัก แต่รักอย่างแตกต่าง เขารักนิชคุณอย่างไม่มีเหตุผลเขารักตั้งแรกครั้งแรกที่เจอ กับพี่จุนซูเขาพ่ายแพ้ให้กับความดีและความน่ารักของจุนซูจากเฉยชากลับกลายเป็นความรักไปในที่สุด ถ้าไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นที่สวนสนุกวันนั้นละก็ความมั่นใจในความรักของเขาก็จะยังคงอยู่ครบ 100 

“แกรักทั้งสองคนงั้นหรอ?...โอ๊ย!ไม่อยากจะเชื่อ แล้วแกไปตัดหน้าคุณเขาแบบนั้น ทำไมเขายังยอมนอนกับแกอยู่อีกละ?”
เหตุผลร้อยแปดถูกหยิบขึ้นมาให้หญิงสาวไปคิด แต่มันก็คิดไม่ออกอยู่ดี จึงเลือกที่จะให้เจ้าตัวเป็นคนอธิบายต่อไปเองจะดีกว่า

“ผมบอกเขาตามตรงว่าพี่จุนซูมาขอคบด้วย แต่ไม่ได้บอกถึงเหตุผลจริงๆว่าเพราะอะไรผมถึงตอบตกลงกับพี่จุนซูบอกแค่ว่าในเมื่อผมอกหักจากเขา ผมก็อยากจะลองคบกับคนที่เขารักเราดูบ้างน่ะครับ เพราะเขาไม่รู้ว่าผมรู้ว่าเขาชอบพี่จุนซูอยู่ ผมก็เลยมีข้อแก้ตัว แต่ความสัมพันธ์ของผมกับเขามันไม่ได้จบ เพราะเรามีอะไรกันมานานมาก จน...ผมขาดเขาไม่ได้ เพราะผมรักเขา ดูเหมือนเขาจะเข้าใจก็เลยยอมปล่อยเลยตามเลย จนกระทั่งไม่นานมานี้เขาอยากหยุดเพราะเหตุผลบางอย่าง เหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกดีรู้สึกเป็นสุขที่สุดในชีวิต สายตานั้นผมรู้สึกได้ว่าในที่สุด สุดท้ายนิชคุณก็หลงรักผมเข้าจนได้ เขารักผมมากกว่าพี่จุนซู”
ดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขประกายจ้า จนคนเป็นพี่อดสะเทือนใจไม่ได้ เมื่อรับรู้ความเจ็บปวดของนายชายแท้ๆของตัวเองก่อนจะค่อยๆดับวูบลงเมื่อเอ่ยถึงประโยคถัดไป

“ผมชนะแล้วในความหมายนึ่งแต่ชัยชนะของผมกลับต้องแลกมาด้วยน้ำตาของใครหลายๆคนรวมทั้งตัวผมเองด้วยครับพี่ ผมทรมาณผมรู้ว่านิชคุณต้องเจ็บแค่ไหนกับคำพูดของผมการกระทำของผมและการบีบบังคับทั้งร่างกายและจิตใจของผม ผมรู้ว่าถ้าพี่จุนซูรู้มันจะแย่แค่ไหน...นั้นผมก็รู้ ผมรู้ว่าผมเลวระย่ำแค่ไหน เพราะทุกครั้งที่ผมมีอะไรกับคุณแล้วเดินกลับห้องมาเพื่อกอดพี่จุนซู หรือมีอะไรกับพี่จุนซูแล้วคิดไปถึงคุณ ผมก็เจ็บไม่แพ้กัน แต่เพราะความเห็นแก่ตัวของผม เพราะความรักที่น่ารังเกียจของผม แค่เพียงเพราะตัวผมมีความรักเท่านั้น เรื่องความเจ็บปวดของคนอื่นๆจึงเทียบไม่ได้เลย ถ้าผมต้องสูญเสียทุกอย่างไป ผมทำไม่ได้จนกระทั่งตอนนี้ ตอนที่ผมตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อความถูกต้องในความคิดของทุกคน ผมก็ยังทำไม่ได้ ลงเอยจนถึงสุดท้ายแล้วผมมันก็ยังเป็นคนเลวคนนึ่งอยู่ดี!”


-TBC # 8-


TALK ::
 หายไป 4 วันไปเล่นเกมส์ออนไลน์คะ ได้หยุดทั้งทีก็อยากพักสมองเล็กน้อย เลยไปเล่นเกมส์ออนไลน์สนุกดีคะ ปกติเป็นคนไม่เล่นเกมส์ แต่ไม่รู้วันนั้นนึกอะไรถึงไปเล่น พอเล่นแล้วก็ติด...อืม...ดีมาก เล่นต่ออีกหน่อย อีกนิดน่า เล่นไปเล่นมาลืมต่อฟิค...ขอโทษคะ แต่ก็อย่างที่บอกจะพยายามแต่งมาลงเรื่อยๆ ไม่ลืมหรอกคะ แต่รอคิวนิดนะคะ ไม่มีงานอะไรทำเป็นพิเศษแต่อยากให้รอ เพราะเอามาลงทุกวันไม่ได้ เนื่องจากติดเกมส์บ้าง ติดเกมส์บ้าง แล้วก็ติดเกมส์บ้างน่ะคะ(เอ๊ะ!ยังไง?) เอาเป็นว่าเจอกันตอน 8 คะ!...คิม จุนซูคัมแบล็ก!
ปล.แอบทำซิกเป็นรูปโปรโมทฟิคตัวเองด้วย ทำเล่นๆไม่รู้สวยป่ะ แค่อยากลองทำน่ะคะ หึหึหึ ไปเล่นเกมส์ต่อก่อนคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น