วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

LAST 6 :: TK

FIC :: LAST 6

COUPLE :: TK

-6-



คิม จุซูจงใจออกจากบ้านพักเพื่อกลับสู่บ้านเกิดที่แดกู โดยไม่คิดจะร่ำลาใครซักคนภายในวง2พีเอ็ม แม้กระทั่งชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักของตัวเองอย่างแทคยอนก็ตาม...ซึ่งทำให้ร่างสูงรู้สึกแปลกใจมากว่าเพราะเหตุใดจุนซูที่ดูจะระแวงว่าตนจะต้องอยู่ใกล้กับนิชคุณเป็นที่สุดกลับนิ่งเฉยได้ขนาดนี้...ไม่ซิ!ต้องเรียกว่าเฉยเสียจนน่ากลัวมากกว่าละมั้ง

.

.

"นั้นอะไรน่ะ?"
จดหมายหนึ่งฉบับบรรจงวางเอาไว้อย่างดีบนเตียงนอนของอ๊ก แทคยอน นั้นทำให้เขาเดาไม่อยากว่า"ใคร" เป็นผู้ทิ้งสารฉบับนี้เอาไว้ให้เขาอ่านกัน


::ถึงแทคยอนที่รัก
หากนายได้อ่านจดหมายฉบับนี้นั้นคงหมายถึงว่า ฉัน คิม จุนซูคนนี้คงจะออกเดินไปแดกูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันหวังว่านายจะเห็นจดหมายนี้และอ่านมันอย่างรอบคอบจนกะทั่งจบ
ที่ฉันไม่เอ่ยปากพูดอะไรกับนายเป็นการลาเพราะฉันไม่ต้องการระเบิดอารมณ์หรือหึงหวงอะไรต่อไปอีกเพราะฉันสัญญากับนายแล้วว่าจะไม่ให้ร้ายหรือคิดร้ายกับคุณอีกต่อไป แต่นั้นก็หมายถึง
เรื่องที่นายเองก็ต้องรักษาสัญญากับฉันคนนี้ด้วยเช่นกัน ที่ว่านายจะตัดใจให้ออกห่างจากคุณให้ได้
แต่คงต้องบอกตรงๆว่าฉันคิดว่ามันไม่ได้ง่ายสำหรับนายขนาดนั้น ยิ่งตอนนี้นายต้องอยู่ลำพังกับคุณสองต่อสองถึง 1อาทิตย์ นั่นยิ่งทำให้ฉันกังวลใจมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความฉันจะไม่ให้ความไว้วางใจแกนายนักหรอกนะ แค่ต้องใช้เวลาให้เหมือนกับที่นายพยายามจะใช้เวลาเพื่อลืมคุณเช่นกัน ในอีก 7 วันข้างหน้าเราคงได้พบกันและฉันหวังว่านายคงไม่อะไรให้ฉันคิดมากอีกในระหว่างนี้ 1อาทิตย์ที่ต้องอยู่กับคุณสองต่อสองมันช่างยากฉันเข้าใจ ฉันอยากให้นายต้องพึงรำลึกเอาเสมอว่าทำเพื่อฉันเพื่อสัญญาของเราเข้าใจหรือเปล่า? หรือถ้าไม่เข้าใจ...ฉันคงต้องอธิบายหน่อยละมั้ง?

ถ้านายจะสังเกตุละก็คงเห็นว่าปากกาที่ฉันเขียนอยู่นี้เป็นน้ำหมึกสีแดงไม่ใช่สีน้ำเงินหรือดำใช่หรือเปล่า นี้คือคำเตือนแทคถ้านายคิดจะเล่นตุกติก ไม่ซื่อสัตย์ต่อคำพูดของนายที่มีต่อฉันละก็ ปากกาจากหมึกสีแดงจะไม่ใช่แค่หมึกอีกต่อไป รอบหน้าฉันจะใช้เลือดของนิชคุณมาเขียนมันให้นายอ่านแทนถ้าทำอะไรให้ฉันโกรธขึ้นมา...ฉันไม่เอานิชคุณไว้แน่และนี้ไม่ใช่คำขู่ ฉันทำจริงถ้าไม่เชื่อจะลองดูก็ได้นะ ว่า คิม จุนซูคนนี้สามารถทำอะไรได้ถึงขนาดไหนบ้าง?
ด้วยรักจากใจ จุนซู::


ร่างสูงพับจดหมายเก็บด้วยหัวใจที่ระทึก เขาคิดไม่ถึงว่าภายใต้ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของ คิม จุนซู
แท้จริงแล้วจะน่ากลัวและยากหยั่งถึงได้เพียงนี้ แค่ให้เขาตัดใจจากนิชคุณมันก็ยากเกินพอแล้วยังต้องโดนจับให้มาอยู่ด้วยกันเป็นอาทิตย์ทั้งๆที่อยากจะหลบหน้าอีกฝ่ายแทบตาย แล้วนี่ยังมาเจอจดหมายอะไรแบบนี้จากพี่จุนซูอีกเขาแทบอยากจะล้มทั้งยืนเสียจริงๆ

"เฮ้อ...ทำไมอะไรๆมันถึงได้ยากขึ้นมากขนาดนี้กันนะ?"
สถบบ่นพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก เขาคิดไม่ตกกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ที่สำคัญสำหรับเขาที่สุดในตอนนี้คือการเผชิญหน้ากับนิชคุณมากกว่า เพราะต่อให้เดินหนียังไงมันก็ยากบ้านพักนี้มีสองชั้นก็จริง แต่ทีวี ห้องครัว ห้องกินข้าว มันมีแค่ห้องเดียวยังไงไม่ช้าก็เจอหน้ากันอยู่ดี 

ร่างสูงหยิบจดหมายขึ้นมามองอีกครั้งก่อนจะโยนมันทิ้งถังขยะอย่างลวกๆเพราะไม่ต้องการเห็นมันซ้ำสองอีก

.

.

"ก๊อกๆๆ"
เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องเขาตัวเองทำให้ร่างสูงสะดุ้งเฮือก แล้วเริ่มจ้องมองประตูทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าใครเป็นคนเคาะ ด้วยตอนนี้ทั้งบ้านมีแค่ตนกับนิชคุณเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน

"มีอะไรงั้นหรอ?"
แทคยอนตะโกนตอบกลับไปที่บานประตู โดยไม่คิดจะเดินไปเปิดแต่อย่างใด ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนกับเตียงด้วยอารมณ์เหนื่อยหน่ายที่ไม่สามารถจะทำอะไรได้ดีไปกว่าการหลบหน้าหลบตากันในเวลาเช่นนี้ ถึงจะรู้ว่ายังไงก็คงหลบได้อีกไม่นานก็เถอะ

"เอ่อ...คือนายไม่หิวข้าวงั้นหรอมันเย็นมากแล้วนะ ฉันต้มราเมนเอาไว้เผื่อนายด้วย มากินกันเถอะก่อนมันจะอืด"
นิชคุณกัดปากลุ้นคำตอบที่ประตูอย่างแน่น เขาต้องการจะคุยกับแทคยอนเพื่อที่จะเคลียร์ทุกอย่างให้จบและต้องการจะรู้เรื่องบางเรื่อง และนี้เป็นโอกาศดีโอกาศเดียวเท่านั้นที่ตนจะสามารถทำได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าใครคนอื่นๆจะมารับรู้เข้า

"วางเอาไว้ก่อนได้ไหม? ฉันยังไม่หิวเท่าไร เดี๋ยวลงไปกินนายกินไปก่อนเลย"
ชายหนุ่มลูบท้องตัวเองน้อยๆ เขาไม่ได้ไม่หิวซะเมื่อไรกันเล่า เพียงแต่เขายังไม่พร้อมจะคุยอะไรกับนิชคุณต่างหาก เขาคบกับคุณมานานทำไมเขาจะไม่รู้ว่าที่อีกฝ่ายเรียกตนออกไปกินข้าวด้วยน้ำเสียงแบบนี้ต้องมีเรื่องที่อยากถามแน่นอน

"แทค...นายก็รู้ว่าฉันหมายถึงอะไร หรือหมายความว่ายังไง แล้วทำไมถึงต้องหลบหน้ากัน นายคิดว่าเวลาแบบนี้จะมีให้ฉันกับนายเยอะนักหรือยังไงกันแทค?"
กำปั้นขาวระรัวทุบลงบนประตูบานใหญ่เพื่อเร่งให้แทคยอนออกมาเจอกัน เขาไม่ต้องการรอเวลาหรอกนะเพราะทุกวินาทีสำหรับเขามีค่าเสมอตั้งแต่วันที่เขาพลาดหันหลังให้หัวใจของตัวเขาเองอย่างจุนซูเพื่อไปหาแทคยอนมาแล้วในครั้งแรกของความรัก

"พอเถอะ!หยุดทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้แล้วฉันยอมแพ้นาย...คุณลงไปกินข้าวกันฉันหิวแล้ว"
ในที่สุดก็ยอมเปิดประตูออกมาเจอนิชคุณแต่โดยดี ร่างสูงทำเพียงแค่ปรายตามองอีกฝ่ายชั่ววูบเท่านั้นก่อนจะรีบเดินหนีไปเพราะกลัวว่าจะพลาดเผลอรั้งเรือนร่างโปร่งบางเข้ามากอดด้วยความคิดถึงเข้าเสียก่อนจะทันห้ามใจ

.

.

"มีอะไรจะคุยก็ว่ามาเถอะ"
มือจับตะเกียบหยิบกิมจิเข้าปากทำทีคล้ายกับไม่ใส่ใจกับเรื่องที่นิชคุณกำลังจะพูดทั้งๆที่ในจิตใจ กำลังปฎิบัติอย่างตรงกันข้าม

"กินก่อนเถอะ...เดี๋ยวกินเสร็จแล้วค่อยคุย"
เพราะรู้ว่าถ้าเริ่มพูดไปเเล้วอาจจะพาลทำให้ต่างฝ่ายต่างกินอะไรไม่ลง จึงเลือกที่บอกสิ่งที่ต้องการคำตอบจากแทคยอนหลังจากนี้เสียจะดีกว่า ใบหน้าหวานพยักหน้าไปทางราเมนเพื่อบอกให้ชายหนุ่มเริ่มกินมันเสียก่อนจะไม่อร่อยเพราะเริ่มอืด

"นายอยากถามฉันเรื่องเมื่อวานใช่หรือเปล่าเกี่ยวกับพี่จุนซู?"
ไม่จำเป็นต้องรอให้คนตรงหน้าเริ่มพูดตนก็เป็นฝ่ายเปิดประเด็นเองก่อน เพราะต่อให้รอให้กินกันจนเสร็จความอยากอาหารก็คงไม่ได้เพิ่มมากขึ้นหรือน้อยลงไปมากกว่าที่กำลังเป็นอยู่นี่อีกแล้ว

"...อืมใช่! ฉันอยากรู้ว่าพี่จุนซูเขารู้เรื่องของเราแล้วใช่หรือเปล่า?"
กำมัดลุ้นจนตัวโก่งกับคำตอบที่ตนเองกำลังรอคอยอยู่เบื้องหน้า แม้ว่าใจจะเอียงไปกว่าครึ่งว่าพี่จุนซูรู้เรื่องแล้วก็ตาม แต่อีกใจตนก็หวังว่าจะมีปฎิหาร์ยช่วยทำให้พี่ชายไม่รู้เรื่องระหว่างเขากับแทคยอนถึงความสัมพันธ์อันซ้ำซ้อนระหว่างเขาทั้งสามคน

"นายก็ได้ยินที่พี่จุนซูพูดแล้วไม่ใช่หรอ?...คิดว่าพี่เขาจะโง่ไม่รู้เรื่องของเราหรือยังไงคุณ?"
วางตะเกียบลงอย่างช้าๆ แล้วยอมจ้องหน้าหาเพื่อคำตอบกับนิชคุณเป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ผ่านมาอย่างตั้งใจ

"ไม่!...ฉันก็แค่อยากมีความหวัง ฉันก็แค่ไม่อยากกลายเป็นคนที่ทรยศพี่จุนซูซ้ำแล้วซ้ำอีกก็เท่านั้นเอง แต่สุดท้ายมันก็จบแบบนี้อีกแล้วซินะแทค? ฉันเป็นคนทำให้พี่จุนซูเจ็บอีกครั้งแล้วใช่หรือเปล่าโกหก หลอกลวง หักหลังแบบเดิมๆอีกแล้ว ทำไมฉันถึงได้เลวแบบนี้นะแทค!"
ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างหมดแรง นิ้วมือทั้งสิบจิกทึ้งดึงแขนทั้งสองข้างของตัวเองจนเลือดซึม ตนอยากจะทำให้มันมากกว่านี้ อยากหายไปจากโลกนี้ได้เลยยิ่งดี เพราะความผิดที่ไม่รู้จักจบจักสิ้นที่มีต่อ คิม จุนซู ทำให้ตนยากที่จะสู้หน้าใครต่อใครได้อีกครั้ง

"นายจะทำร้ายตัวเองไปเพื่ออะไรคุณ! ทำแบบนั้นไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยนะ การทรมาณมันมีแต่จะทำร้ายตัวเอง หรือแม้แต่ฉันก็ด้วย ฉันเองก็เลวไม่แตกต่าง อาจจะเลวกว่านายเสียด้วยซ้ำคุณ เพราะฉันรู้ รู้มาตลอดว่านายรักพี่จุนซูแต่ก็ยังเข้าแทรกทำให้นายต้องหันหลังให้พี่จุนซูแล้วมารักฉันแทน ฉันขอโทษคุณฉันขอโทษเป็นเพราะฉันรักนายมากจนทำตัวเลวๆแบบนั้นไป ทั้งหมดมันเป็นเพราะฉันไม่ใช่นาย ไม่ใช่ซักนิด"
รีบลุกขึ้นจากที่นั่งไปกระชากแขนของนิชคุณออกจากการทำร้ายตัวเองแล้วกอดร่างโปร่งเอาไว้อย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้คุณหันกลับมาทำร้ายตัวเองอีกรอบ

"แทคเราควรทำยังไง? ฉันควรทำยังไง? ทำไมการมีความรักมันยากแบบนี้ ทำไมเราถึงไม่เป็นแบบคู่อื่นๆเขาแทคเพราะอะไรงั้นหรอ"
อ่อนแอจนเกินกว่าจะลุกขึ้นได้อีกครั้ง นิชคุณอยากหลับตาแล้วหยุดหายใจไปเสียดื้อๆเพื่อหนีจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมากมายจนยากเกินเยียวยา...เขาก็แค่คนมีความรักทำไมมันถึงได้ผิดมากผิดมายขนาดนี้กันนะ?

"เพราะเราก็ต่างอ่อนแอไงคุณ? เพราะเราต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับความจริงที่เราล้วนรู้กันอยู่เต็มอกว่ามันคือความรู้สึกอะไรแต่ก็ยังหน้ามืดทำเป็นมองไม่เห็น และความผิดพลาดครั้งนี้โทษมันก็รุนแรงนัก ฉันต้องออกห่างจากนายและเราควรจะต้องตัดใจจากกัน เราไม่สมควรจะรักกันอีกครั้ง ฉันรู้ว่ามันทำยาก แต่เราต้องทำ นั้นคือสิ่งที่ทุกอย่างกำหนดเอาไว้แล้ว ทำอย่างที่นายเคยขอร้องให้ฉันทำซะคุณ แล้วเก็บเอาความรักระหว่างเราเอาไว้เป็นแค่ภาพความทรงจำซะทั้งดีและไม่ดีนั้นแหละ ให้มันเหลือแค่ความทรงจำเท่านั้นก็พอ"
ไม่ใช่แค่พูดเพื่อบอกกับนิชคุณเท่านั้นแต่เขาพูดเพื่อเตือนสติของตัวเขาเองด้วย ว่าเขาควรลืมคนที่กำลังโอบกอดอยู่นี้เสียให้หมด เพื่อไปหาคนรักของเขาจริงๆอย่างจุนซู แม้ว่าตนจะแน่ใจว่าชาตินี้คงไม่สามารถเลิกรักนิชคุณได้ก็ตาม แต่อ๊ก แทคยอนก็ต้องทำถ้าเขาต้องการจะปกป้องนิชคุณจากจุนซู และปกป้องจุนซูจากตัวของจุนซูเอง เขาจะต้องทำมันให้ได้ไม่ว่ามันจะใช้เวลานานเท่าไรก็ตามที

.

.

สิ่งที่ฮวาง ชานซองกำลังได้ยินอยู่มันคืออะไร เขากำลังฝันอยู่ใช่หรือเปล่า?
พี่แทคกับพี่คุณเคยรักกันงั้นหรอ? ไม่ซิ!ถึงจะเป็นตอนนี้ก็ยังรักกัน น้ำเสียงและท่าทางนั้น
มันบ่งบอกชัดๆว่าทั้งสองยังรักกันอยู่ แล้วพี่จุนซูละ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ และยิ่งคิด ฮวาง ชานซองก็ยิ่งเจ็บปวดที่หัวใจ
สาเหตุที่นิชคุณไม่รับรักเขาไม่ใช่แค่เพราะยังไม่พร้อมรักใครแต่มันเป็นเพราะมีคนอื่นในหัวใจแล้วต่างหาก นั้นคือความจริงที่ตนควรรับรู้!
ไม่น่าเลยไม่น่าย้อนกลับมาเลย ตนไม่ควรลืมของสำคัญอย่างโทรศัพท์เอาไว้เลยซักนิด
ทำไมถึงได้ปัญญาอ่อนลืมไปได้นะ? ถ้าเขาไม่ลืมเขาก็คงไม่ต้องมาได้ยินเรื่องราวบ้าๆแบบนี้หรอก
เขามันคนปัญญาอ่อน ปัญญาสั้นแท้ๆฮวาง ชานซอง!

"พี่คุณ...พี่แทคครับ อยู่หรือเปล่าครับผมลืมของไว้อ่ะ"
ตัดสินใจส่งสัญญาณเสียงบอกออกไปก่อนเพื่อให้คนทั้งคู่รู้สึกตัว เพราะเขาไม่ต้องการให้แทคยอนและนิชคุณรู้ว่าเขาเองก็เป็นคนนึ่งที่รู้เรื่องอะไรแบบนี้แล้วเช่นกัน

"ชานซอง!...ว่าไงลืมของงั้นหรอ? / กินราเมนด้วยกันไหม?"
ร่างของทั้งคู่ผละออกจากกันแทบไม่ทัน นิชคุณรีบปาดซับหยดน้ำตาของตัวเองอย่่างรีบร้อน ในขณะที่แทคยอนเองก็รีบเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำทีว่ากำลังกินราเมนอย่างอร่อยเสียเต็มประดา

"ครับผมลืมของครับพี่คุณ แล้วก็ไม่ครับผมไม่ค่อยหิวพี่แทคผมลืมโทรศัพท์เลยมาเอา ผมขาดมันไปไม่ได้หรอกมีใครเห็นบ้างมะครับ?"
ทำทีเป็นหันมองซ้ายทีขวาทีเพื่อหลีกเลี่ยงการเห็นภาพที่แสนเจ็บปวดสำหรับตัวเองตรงหน้า แล้วรีบมองหาโทรศัพท์ให้เร็วที่สุดจะได้รีบหนีออกไปจากห้องนี้ เพราะยังทำใจเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นเร็วเกินกว่าจะรับได้ทันไหว

"โทรศัพท์นายอยู่ในห้องฉันบนโต๊ะคอมน่ะ เห็นวางทิ้งไว้เลยเก็บเอาไว้ให้เผื่อใครโทรมาจะได้รับแทนเดินไปเอาดิวางอยู่แถวๆนั้นแหละ"
ชี้มือเข้าไปที่ห้องของตัวเอง เพื่อให้ชานซองรับรู้ก่อนจะหันมาเริ่มทำเป็นสนใจราเมนที่เริ่มขึ้นอืดอีกครั้งเเม้ว่าจะกินแทบไม่ลงแล้วก็ตาม

"ครับขอบคุณมาก ผมเข้าไปเอานะ"
ก้มหัวให้พี่ชายผิวเข้มเป็นทำนองขออนุญาตเข้าห้อง แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องเพื่อไม่ให้แทคยอนผิดสังเกตุกับตัวเขาเองไปมากกว่านี้

.

.

"ไหนนะโทรศัพท์...นั้นไง!"
ชานซองรีบเดินเข้าไปหาโทรศัพท์ตัวเองอย่างรีบร้อน และด้วยความไม่ระมัดระวังทำให้ร่างสูงเดินเตะถังขยะจนถังล้มครืนลงกับพื้นและเศษกระดาษกระจายเต็มห้อง

"ซุ่มซ่ามเอ๊ย!"
ด่าตัวเองออกมาเบาๆ แล้วก้มลงเก็บเหล่าเศษกระดานที่ส่วนใหญ่เป็นโน๊ตเพลงที่พี่จุนซูแต่งแล้วไม่เอาเพื่อทิ้งลงถังขยะตามเดิม เศษกระดาษทุกใบทุกขย้ำทิ้งจนไม่เหลือชิ้นดีเพราะมันคือขยะ 

"นี่มันอะไรกันเนี่ย!"
แต่ทว่ากลับมาชิ้นหนึ่งที่แตกต่างออกไป แผ่นกระดาษถูกบรรจงพับอย่างดีแต่กลับถูกทิ้งลงถังขยะราวกับคนทิ้งเผลอทำตกลงแต่ไม่ได้ตั้งใจทิ้ง ชานซองจึงเก็บขึ้นมาเปิดดูด้วยคิดว่ามันคือเอกสารสำคัญที่จุนซูหรือแทคยอนอาจทิ้งโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ก่อนจะพบว่ามันคือจดหมายที่แสนน่ากลัวของคิม จุนซูที่เขียนขึ้นเพื่อขู่แทคยอนนั้นเอง

ฮวาง ชานซองรีบเก็บจดหมายนี่ไว้กับตัวเขาเองทันที ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินออกไปจากห้องพร้อมโทรศัพท์ของตน ความลับมากมายกำลังจะถูกเปิดเผยแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นฝ่ายร้องขอก็ตาม แต่ในเมื่อเขาได้รู้แล้วเขาก็ควรจะสานมันต่อให้จบ เพื่อช่วยเหลือคนที่เขารักแม้ว่าจริงๆในตอนนี้ตัวของฮวาง ชานซองเองก็เริ่มเจ็บปวดไม่แตกต่างจากใครเพราะสาเหตุที่มาจาก...ความรัก...เช่นกัน

.

.

"ได้แล้วครับพี่ขอบคุณมากครับ ผมไปเลยแล้วกันเดี๋ยวพี่จินยองรู้ว่าผมแอบกลับมาจะโดนดุเอา"
ร่ำลาทั้งแทคยอนและนิชคุณเสร็จชานซองก็บึ้งตัวออกมาจากบ้านแทบไม่ทัน ร้อนใจอยากจะเปิดจดหมายนี้ออกอ่านให้ถี่ถ้วนมากกว่าเมื่อครู่ เพราะตนรีบอ่านภายในห้องของพี่ชายผิวเข้ม ทำให้ชานซองจับใจความสำคัญได้ไม่ดีเท่าใดนัก ตนจึงร้อนใจอยากออกจากบ้านเพื่ออ่านทวนซ้ำและทำความเข้าใจอีกหน

"คิม จุนซู ตัวตนของพี่น่ากลัวได้ถึงขนาดนี้เลยหรือยังไง?"
จ้องมองข้อความสุดท้ายด้วยความโกรธเมื่อเข้าใจว่าพี่ใหญ่แสนใจดีแท้จริงแล้วร้ายกาจเพียงใด 

"คิม จุนซู พี่กล้าเอาเรื่องแบบนี้มาขู่พี่แทคเลยงัั้นหรอ? พี่มันไม่ใช่คน พี่มันไม่มีหัวใจ ถึงกล้าเอาเรื่องเลือดของพี่คุณมาขู่พี่แทคแบบนี้ ผมคนนึ่งละที่จะไม่ยอมให้พี่ทำอะไรพี่คุณแน่!"
ขย้ำกระดาษที่ตนถืออยู่จนเกือบขาด แต่ก็ยังอดทนถือไม่ฉีกมันออกเพราะต้องการเก็บมันเอาไว้เป็นหลักฐานในการชี้ตัวผู้ร้ายสำหรับอนาคต

.

.

"เขาไปแล้วหรอ? ชานซองน่ะ?"
ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมากนักกลัวว่าหากชานซองยังไม่เดินออกไปจะเห็นดวงตาบวมๆที่มีแต่คราบน้ำตาเต็มไปหมดของตัวเขาเอง

"ไปแล้วละ"
เอ่ยปากกับนิชคุุณอย่างมั่นใจเมื่อได้ยินเสียงชานซองปิดประตูบ้านและเงียบลงในที่สุด

"อืม...หวังว่าคงไม่ได้ยินอะไรหรอกนะ ฉันไม่อยากให้ชานซองเจ็บปวด"
เหม่อออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อคิดถึงน้องชายที่รักเขาเกินกว่าคำว่าพี่ชายอย่างชานซองขึ้นมา 
เพราะเขารักชานซองอย่างบริสุทธิ์และไม่คิดว่ามันจะง่ายหากจะเปลี่ยนสรรพนามเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่าพี่ชายและน้องชาย เขาไม่อยากให้ชานซองคิดกับเขาเป็นอื่น แต่กับความรักเขาไม่สามารถจะห้ามใครได้แม้แต่กับใจของตัวเขาเองก็ตาม นั้นทำให้รู้สึกเป็นห่วงชานซองขึ้นมาทันทีนิชคุณกลัวว่าน้องจะกลายเป็นเหมือนตัวเขาเองที่แสนเปราะบางหากมันเปลี่ยนเป็นเรื่องของความรักแล้วละก็ แม้จะแข็งแกร่งมากเพียงใดแต่ก็อาจพังทลายลงได้แม้เพียงแค่เศษฝุ่นเล็กเพียงชิ้นเดียว

"เพราะเด็กนั้นหลงรักนายงั้นหรอไง?"
ในน้ำเสียงของแทคยอนพยายามเป็นมากที่จะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไร ทั้งๆที่กำลังอิจฉาชานซองแทบตายที่ได้รักนิชคุณอย่างเปิดเผยเช่นนั้น

"เพราะฉันไม่รู้ว่าฉันจะตอบรับเขาได้เมื่อไร ไม่รู้ว่าวันไหน ฉันแค่ไม่อยากให้เขารอ และก็ไม่อยากให้เขารู้เรื่องในอดีตที่ไม่น่าพิศมัยของฉันเท่าไร ฉันไม่อยากให้รอยยิ้มนั้นหายไปจากชานซอง ฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำร้ายคนอื่นอยู่ตลอดแบบนี้ เพราะแค่นี้ฉันก็เลวเกินพอแล้วไงละแทค/ ฉันจะพูดมันเป็นครั้งสุดท้ายนะคุณ เลิกโทษตัวเองคนเดียวซะที ถ้าอยากจะโทษโอเคนายอาจจะผิดแต่มันไม่ใช่ทั้งหมด ฉันเองก็มีส่วนผิด แม้กระทั่งพี่จุนซูเองก็ไม่แตกต่างนักหรอกนะ"
เลือดจากต้นแขนทั้งสองข้างเริ่มไหลจนซีมออกจากแขนเสื้อสีขาวเป็นรอยแดงไปทั่ว แทคยอนจึงสั่งให้นิชคุณหยุดโทษตัวเองไม่เลิกแล้วลุกเดินตามเขาเข้าไปในห้องเพื่อทำแผลทันที ทิ้งเอาไว้เพียงแค่คำพูดปริศนาที่ทำให้นิชคุณต้องเอะใจ

"หมายความว่ายังที่ว่าพี่จุนซูไม่แตกต่างน่ะแทค?"
เอ่ยปากถามเสียงเบาในขณะที่เดินเข้ามาภายในห้องนอนของแทคยอน ใบหน้าหวานเหลือบมองไปทั่วทั้งห้องอย่างคิดถึง เขาไม่ได้เข้ามาในห้องนี่นานแค่ไหนแล้วนะ?

"ไม่มีอะไรหรอก...มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่นายจะรู้มันเป็นเรื่องของฉันกับพี่จุนซูน่ะแค่บ่นให้ฟังอย่าไปสนใจเลย ดึงเเขนเสื้อขึ้นฉันจะทำแผลให้แล้วต่อไปก็อย่าทำร้ายตัวเองอีกนะคุณ ฉันไม่อยากเห็นนายเจ็บอีก ไม่อยากเห็นเลือดของนาย และก็ไม่ต้องการเห็นนายโทษตัวเองอีกต่อไป นายสัญญากับฉันได้หรือเปล่าคุณว่านายจะไม่ทำแบบนี้อีก นี่เป็นคำขอร้องสุดท้ายของผู้ที่กำลังจะตายไปจากอนาคตของนายนะคุณรับปากได้หรือเปล่า"
น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยกระซิบต่ำข้างใบหูนุ่ม ก่อนจะบรรจงจุมพิตลงบนดวงตาที่เต็มไปด้วยหยดน้ำร่างสูงขยับเคลื่อนจูบด้วยความคิดถึงและความรักไปทั่วดวงหน้าหวาน เพื่อจะจบลงที่ริมฝีปากแดงสดที่ต้องชอกช้ำจากการจูบที่คล้ายคำอ้อนวอนที่แสนหวานก่อนการอำลาที่แสนเศร้า

"ฉัน...ไม่กล้ารับปากแทค ฉันเป็นคนบอกนายให้เลิกวุ่นวายกันก็จริง แต่ฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าจะหยุดรักนายได้วันไหนเหมือนกัน ฉันรับปากไม่ได้เพราะฉันยังคงต้องเจ็บ ต้องโทษตัวเองจากความอ่อนแอของใจฉันอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่ฉันจะพยายามแทคฉันจะพยายามตัดใจจากนาย ฉัน...อื้อ"
รสจูบหวานล้ำนุ่มลึกแทรกผ่านความเจ็บช้ำของนิชคุณราวกับน้ำฝนที่พรมลงบนหัวใจที่แห้งแล้ง นิชคุณเปิดใจยอมรับมันแต่โดยดีเพราะรู้ว่ายิ่งตนฝืนก็ยิ่งเจ็บ ขอแค่ช่วงเวลานี้ได้ไหมที่จะตักต้วงความรักที่ตนต้องการมาตลอด แล้วจะไม่ร้องขออะไรจากพระเจ้าอีกเลย

"ฉันรักนายคุณ...ฉันรักนาย"
ลงเอ่ยก็เป็นหัวใจของอ๊ก แทคยอนที่ไม่ยอมทำตามสมองที่สั่งการให้หยุด ขอแค่วันนี้ ขอแค่ช่วงเวลา 7 วันนี้ได้หรือเปล่าที่เราจะมีกันและกัน ขอแค่นี้แล้วจะหยุดทำผิดๆซ้ำๆต่อการกระทำของตัวเขาเอง แค่ได้แสดงความรักที่ไม่เคยได้แสดงออกต่อหน้าใครๆ แค่ทำตามหัวใจและความรักจะผิดบาปอนาคตเขาขอรับมันเอาไว้แต่ผู้เดียว

-TBC #7-

TALK :: 
อะไรก็ไม่รู้คะ ปมมันเปิดขึ้นอีกหน่อยแต่ก็พาให้คนอ่านสงสัยไปยิ่งกว่าเดิมแน่ๆ เราค่อนข้างแน่ใจ ความสัมพันธ์มันซับซ้อนแล้วก็วุ่นวายมากกว่าที่หลายๆคนคิดไว้แน่ๆ เราเองยังคิดแบบนั้นเลย แต่ก็ต้องแบบนี้แหละคะมันถึงจะสนุก...ใช่มะ(สนุกของแกคนเดียวอ่ะดิ!)
เอาเป็นว่าติดตามฟิคเรื่องนี้ในตอนต่อไปนะคะ เราไม่รู้ว่ามันจะจบตอนไหนเหมือนกัน แต่คาดว่าคงยาวอยู่พอควร ถ้ายังมีคนอ่านเราก็ยังมีปัญญาแต่งแหละคะ สู้ๆ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น