วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

LAST 10 :: TK

FIC :: LAST 10

COUPLE :: TK

-10-



“ฉันรักนายนิชคุณ...ฉันรู้ใจตัวเองแล้ว...แค่นายที่ฉันต้องการ!”
คำบอกรักจากหัวใจของอ๊ก แทคยอนเปรียบเสมือนคำอำลาแสนเศร้า ที่คนทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างรับรู้ความนัย แม้จะพูดบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกมา แต่ก็ไม่อาจจะเดินตามทางของหัวใจได้ คนนึ่งเลือกเพื่อปกป้อง คนนึ่งเลือกเพื่อทำลาย คนนึ่งเลือกเพื่อหยุดหักหลัง อีกนึ่งคนเลือกเพื่อรักแท้ ปลายทางสุดท้ายควรจบสิ้นสุดที่ตรงไหน?

.

.

"ลาก่อนแทคยอน...ลาก่อนอนาคตของเราสองคน"
ใบหน้าหล่อเหลายามหลับช่างดูน่าหลงใหลเสียยิ่งกระไร เพียงแค่ได้เฝ้ามองสีหน้าของร่างสูงที่เข้าสู่ช่วงนิทรา 
หัวใจก็ทั้งเต้นระรัวและบีบคั้นได้ในขณะเดียวกัน เขานอนมองหน้าอ๊ก แทคยอนมานานเกือบชั่วโมงแล้ว
หลังจากสิ้นสุดการถูก "รัก"อันแสนหอมหวานและโศกเศร้าในคราเดียวกัน ใบหน้าสวยทำได้แค่นิ่งเงียบ
และจ้องมองเพียงเท่านั้น ไม่กล้าจะส่งเสียงอะไรออกมาให้ดังมากไปกว่าการกระซิบพูดกับตัวเขาเอง 
ด้วยกลัวว่าชายหนุ่มจะตื่นขึ้นมาก่อนที่ตนเองจะทันได้จากไป

"......"
ค่อยๆพยุงตนเองให้ลุกขึ้นจากเตียงด้วยสภาพอันน่าอายเล็กน้อย หากแต่ก็ฝืนขยับตัวหนีลงมาจากเตียงนอน
ได้ในที่สุด...นิชคุณจ้องมองแผ่นหลังกว้างอันแสนแข็งแกร่งเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะติดสินใจปิดประตูห้องนอน
แล้วพาร่างของตนเองเดินออกจากความทรงจำที่คงอยู่ทันที

"ลาก่อน...คุณ"
เปลือกตาที่ปิดสนิทราวกับว่าหลับอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอดลืมตาตื่นขึ้นท่ามกลางความเงียบ 
พร้อมกล่าวคำอำลานิชคุณจากด้านหลังของตัวเขาเองอย่างไร้เสียง ฉากรักแสนโศกระหว่างอ๊ก แทคยอน และนิชคุณ
ได้สิ้นสุดลงแล้ว แม้จะรู้ใจตนเองในที่สุดแต่มันก็สายเกินกว่าจะทำอะไรได้ โซ่ตรวนที่เขาล่ามมันเอาไว้กับร่างโปร่ง
ควรได้รับการปลดปล่อยเสีย ทุกอย่างควรจบลงและสิ้นสุดได้แล้วนั้นคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา
ถึงจะไม่มีใครพูดคำคำนี้ออกมาแต่เขาก็รู้ดีกว่าต่างคนก็ต่างคิดตรงกัน

ความเจ็บที่ไม่อาจบรรยายได้เป็นคำพูดเมื่อต้องกล่าวคำอำลา แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าต่างฝ่ายต่างรัก 
แต่ก็ไม่อาจจะขยับตัวได้ตามความคิดของตัวเอง หัวใจก็ราวกับถูกฉีกแบ่งออกจนกลายเป็นรูโหว่ง 
ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหนที่จะมีใครมาเติมเต็มช่องว่างนั้นได้

คิม จุนซู...ฮวาง ชานซอง...สมควรแล้วจริงๆหรือที่เป็นคนทั้งสองคน?...ไม่มีใครรู้จริงๆ

.

.

"ชานซองฉันขอมานอนค้างที่นี่กับนายซัก2-3วันได้หรือเปล่า?...แล้วค่อยกลับบ้านพร้อมนายเลย!"
โดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน นิชคุณก็หอบเอาร่างกายของตัวเองมาขออาศัยอยู่กับชานซองชั่วคราว 
ด้วยเขาตัดสินใจอย่างฉับพลันทำให้นึกหาที่พักอื่นไม่ได้ จึงเลือกเรียกแท็กซี่และออกเดินทางมาหาชานซองแทน
แบบไม่ได้แจ้งล่วงหน้าหวังเอาไว้ลึกๆว่าอีกฝ่ายคงไม่ใจร้ายปฎิเสธตนเองเข้าอย่างเย็นชาหรอกนะ!

"พี่คุณ!...ทำไม? รีบเข้ามาบ้านมาก่อนเถอะครับ แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้มากันเดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี!"
หูตาเหลือกเมื่อเขาต้องประตูรับนิชคุณในยามดึก ชุดนอนตัวบางแทบไม่ได้ช่วยกั้นขวางลมหนาวที่พัด
ผ่านผิวกายคนตัวขาวแม้แต่น้อย ใบหน้าสวยดูซีดและกายสั่นจนชานซองต้องรีบดึงนิชคุณให้เข้ามาในบ้านแทบจะทันที
พร้อมคำบ่นด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าเสื้อนอนตัวบางจะทำให้คนใส่ไม่สบายไปในที่สุด

"ขอโทษที่มารบกวนนะ พอดีฉันรีบออกมาน่ะเลยไม่ได้เตรียมตัวอะไร ถ้านายไม่พอใจ ฉันกลับก็ได้นะ"
เอ่ยเสียงอ่อยเมื่อจับได้ถึงน้ำเสียงดุๆของเจ้าของบ้านในระหว่างที่กำลังสนทนากัน บางทีเขาอาจรบกวน
ชายหนุ่มมากจนเกินไปจริงๆ ตนควรรีบออกจากที่นี่ไปก่อนที่จะถูกโกรธมากไปกว่านี้งั้นซินะ?

"ไม่ให้ไป!...พี่ไม่ได้มารบกวนอะไรหรอกครับ แต่พี่ผมโกรธเพราะพี่เอาแต่เป็นห่วงผม 
ห่วงคนอื่นแต่กลับลืมห่วงตัวเอง ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ละครับ? ขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า...ถะ...เถอะครับ!"
โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ฮวาง ชานซอง ก็รีบดึงแขนเสื้อคนตัวขาวจัดให้รีบตามตนเองขึ้นไปบนห้อง
จนคอเสื้อถูกรั้งลงเล็กน้อย และบางสิ่งที่เขาได้เห็นกลับทำเอาหัวใจของร่างสูงแทบหยุดเต้น 
ร่องรอยจูบถูกประทับอยู่ทั่วลาดไหล่ขาวจนกลายเป็นเหมือนกลีบกุหลาบนับสิบแต่งแต้มอยู่ทั่วทุกอณู 
จนชายหนุ่มเผลอเปลี่ยนจากจับแขนเสื้อเป็นบีบต้นแขนนิชคุณอย่างแรงโดยไม่ทันได้รู้ตัว 
สติยอมคืนกลับมาอีกครั้งก็เมื่อพี่ชายหน้าหวานส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บนั้นแหละ 
ตนจึงรีบปล่อยเเขนคนตรงหน้าออกแล้วรีบหันใบหน้าหนี
เสมือนว่าเมื่อครู่ไม่ได้มองเห็นอะไรที่ผิดแปลกไปเเม้แต่น้อย ทั้งๆที่มันชัดเจนกระทั่งติดอยู่ในความทรงจำไม่หาย

...อ๊ก แทคยอน...เป็นพี่ซินะที่สร้างมัน...พี่อยากให้ผมอิจฉาพี่ไปถึงไหนกันนะ?

"เป็นอะไรหรือเปล่าชานซอง...ทำไมเมื่อกี้.../ ขอโทษครับ เมื่อกี้พื้นมันลื่นๆ จนผมเกือบล้มดีที่ยังจับพี่ทัน 
เผลอตัวบีบแขนพี่เเรงไปหน่อยไม่เป็นอะไรใช่หรือเปล่าครับ? ถ้าไม่เป็นไรรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกรอบ
จะได้รีบไปนอนกัน นี่มันดึกมากแล้ว คนในบ้านผมหลับกันหมดแล้วด้วย อย่าทำเสียงดังให้คนอื่นตื่นเลยจะดีกว่าครับ"
รีบดักคอไม่ให้ร่างโปร่งได้เอ่ยปากถามในสิ่งที่ ฮวาง ชานซองคิดว่าตนเองรู้ว่านิชคุณจะถามอะไร 
จูงมือพาพี่ชายหน้าหวานขึ้นห้องไปแบบเงียบๆ ก่อนจะเลือกชุดของตนให้นิชคุณได้เปลี่ยนใส่แทนชุดเดิมที่ใส่อยู่

.

.

พี่ใส่ตัวนี้ก็แล้วกันครับ ใหญ่ไปหน่อยแต่ก็อุ่นแล้วก็กำลังหนาพอดีเลย ไปเปลี่ยนเถอะครับ"
ยื่นเสื้อยืดตัวใหญ่พร้อมกางเกงขายาวให้คนตัวเล็กกว่าไปเปลี่ยน ขนาดยังไม่ได้ใส่ก็พอจะจิตนาการได้ไม่ยาก
ว่าจะหลวมโครกเพียงใด ก็เขาตัวใหญ่กว่านิชคุณตั้งมาก จะให้พอดีตัวก็คงน่ากลัวจนเกินไป!

"บิ๊บๆๆ"
เสียงข้อความเรียกเข้าแผดดังลั่น จนเจ้าของโทรศัพท์อย่างชานซองต้องหยิบขึ้นมาถาดเข้าเรียกข้อความขึ้นมาดู 
แล้วก็แทบจะวางมันลงที่เดิมเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนส่งและส่งข้อความอะไรมาหาเขา

::ชานซอง ฉันคิดว่าคุณคงไปอยู่กับนายชั่วคราว...คงต้องเป็นนายไม่ใช่คนอื่น ยังไงก็ฝากดูแลหมอนั้นด้วยละ
...ผู้ส่ง พี่แทคยอน::


"มันหมดเวลาของพี่แล้วครับพี่แทคยอน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพี่หมดสิทธิ์ในตัวพี่คุณไปแล้ว เอาเวลาของพี่ไปห่วงพี่จุนซูเถอะ !
ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับพี่คุณตั้งแต่นี้ต่อไปผมจะรับมันไว้เอง!"
พูดพึมพำกับข้อความจากแทคยอนที่ส่งมาให้เขาได้รับ สำหรับพี่มันอาจเป็นจุดจบที่น่าเจ็บปวด 
แต่สำหรับผมมันคือจุดเริ่มต้นที่ดี ผมจะทำทุกอย่างเพื่อความรักของตัวเองอย่างเต็มที่ 
และจะไม่หยุดความคิดของตัวเองเพื่อใครอีกต่อไปแล้ว!

.

.


ข้อความถูกกดส่งออกไปหาชานซองด้วยหัวใจอันสั่นเทาจากความเจ็บปวด ถ้าเขามองไม่ผิดนิชคุณจะต้องไปหาชานซองแน่ๆ 
บางทีในอนาคตหมอนั้นอาจจะเป็นคนสำคัญของนิชคุณแทนที่เขา แค่คิดหัวใจของอ๊ก แทคยอนก็พาลจะทรมาณขึ้นมาอีกรอบ 
อนาคตของนิชคุณที่ไม่มีตัวตนของเขาอยู่ที่นั้นในฐานะคนรัก และเดินเคียงข้างกัน นายมันน่าสมเพชแท้แทคยอน!

ร่างสูงลุกขึ้นจากที่นอนที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งความทรงจำภายในห้องของนิชคุณอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเริ่มมองและสำรวจ
ทุกอย่างภายในห้องของร่างโปร่งเพื่อรื้อค้นความทรงจำระหว่างกัน เตียงนอน หมอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า รูปภาพ ก่อนจะจบลง
ที่โต๊ะเขียนหนังสือเป็นลำดับสุดท้าย เขานั่งลงบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยหนังสืออ่านเขียนภาษาเกาหลีระดับเบื้องต้น
สมุดวาดภาพ โน๊คบุ๊คเครื่องบาง เทียนอโรม่า หมวกหลายหลากแบบที่เจ้าตัวชอบสะสม และกุญแจปริศนาที่ร่วง
ลงมาจากด้านหลังกรอบรูปภาพครอบครัวของนิชคุณที่แทคยอนยกขึ้นมามองดู มันถูกเก็บซ่อนเอาไว้ราวกับไม่ต้องการให้ใครดู

"กุญแจอะไรกัน?"

.

.

"ฉันทำถูกแล้วใช่หรือเปล่า?"
หมอกไอน้ำจับกลุ่มกราวทั่วภายในห้องหลังจากที่นิชคุณเปิดมันเพื่อชำระล้างร่างกายของตนเองขับไล่
ความเหน็บหนาวที่พานพบ มือขาวยกขึ้นลบภาพสะท้อนอันแสนเลือนลางจากไอน้ำที่เกาะพราวอยู่บนกระจกเงา 

"แทคยอน..."
ร่องรอยของคนคนนั้นมันแสนจะชัดเจน แม้ทุกอย่างบนร่างกายนี้จะจางหายไป 
แต่ความรักระหว่างเรามันจะยังคงอยู่ภายในใจและความทรงจำของฉันคนนี้เสมอ

"ชานซอง...ถ้าเป็นนาย จะสามารถช่วยฉุดฉันขึ้นมาได้หรือเปล่า?...ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ฉันควรจะเปิดหัวใจรับนายเข้ามา?"
ค่อยๆบรรจงใส่เสื้อผ้าของร่างสูงลงบนร่างกายตัวเอง เพื่อสวมทับความรักของใครอีกคนเอาไว้ 
เนื้อผ้าหนานุ่มและอบอุ่นจนทำให้ความรู้สึกเหน็บหนาวคลายบรรเทา มันช่างเหมือนกันกับเจ้าของเสื้อเสียจริงๆ

.

.


"เป็นไงครับพี่? ดีขึ้นหรือยัง? หายหนาวบ้างหรือเปล่า?"
กดลบข้อความจากแทคยอนทิ้งและวางเครื่องลงข้างตัวทันทีที่นิชคุณเดินเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง
ไม่มีอะไรที่อีกฝ่ายควรได้รับรู้ ไม่มี...เขาต้องการใช้เวลาทุกอย่างอยู่กับดวงหน้าหวาน 
เป็นซักครั้งที่เขาจะขอเห็นแก่ตัวบ้าง แต่เขาจะสามารถทำมันได้หรือเปล่าละ? 

"ดีขึ้นเยอะเลยขอบใจมากนะ!"
ยิ้มหวานรับคำถามที่แสนห่วงใยกัน ก่อนจะเคลื่อนตัวไปนั่งลงข้างกายชายหนุ่มร่างสูงที่ยิ้มอย่างยินดี
กับคำตอบที่ได้รับ

"ทำไมอยู่ๆถึงมาหาผมดึกๆแบบนี้ ทะเลาะกับพี่แทคยอนหรอ? หรือพี่จุนซูมารังแกอะไรพี่?"
ใบหน้ายิ้มแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเอ่ยชื่อคนทั้งสองคนออกมา 
ชานซองคว้ามือพี่ชายหน้าหวานมากุ่มเอาไว้แน่นเพื่อส่งผ่านความอบอุ่นและห่วงใย 
อยากให้นิชคุณรับรู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาจะคงอยู่ข้างเคียงกันตลอดไป

"เปล่า...ไม่ได้ทะเลาะ ไม่ได้โดนรังแกอะไรจากใครทั้งนั้นแหละ แค่เบื่อๆบ้าน...แค่คิดถึง...นาย"
ก้มหน้าลงต่ำเมื่อพูดมาถึงประโยคสุดท้าย เขาตัดสินใจไปแล้ว...เขาพูดมันออกมาแล้ว ฮวาง ชานซองตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
ฉันจะตอบรับความรักของนายที่มีให้กันอย่างบริสุทธิ์ใจเสมอมา

"พี่ว่าอะไรนะครับ?"
ตกใจจนอ้าปากค้าง สิ่งที่ฮวาง ชานซองกำลังได้ยินคงไม่ใช่ความฝันใช่หรือเปล่า 
ถ้าเป็นฝันเขาก็คงไม่ต้องการตื่นอีกเลย พี่จะรู้บ้างหรือเปล่าว่ามันคือฝันดีที่สุดในชีวิตผม!

"ใช่...ฉันคิดถึงนาย เรา...เราลองมาคบกันดูไหม?"
กลั้นใจถามออกไป อดีตที่แสนเจ็บปวดควรได้เวลาหันหลังให้ และก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ฮวาง ชานซอง 
ถ้าเป็นผู้ชายคนนี้ตนเชื่อว่าความรักที่แสนบริสุทธิ์จะช่วยเติมเต็มให้กันและกันได้

"พี่ไม่ได้กำลังหลอกผมหรือหลอกตัวเองใช่หรือเปล่าครับ? ถ้ายอมคบกันเพราะสงสารผมไม่ต้องการหรอกนะครับ 
ผมไม่ได้น่าสมเพชขนาดนั้นหรอก"
แม้จะอยากแสดงสีหน้าดีใจเพียงใด แต่ความคิดในเชิงลบมันก็ยังคงตามรบกวนจิตใจอยู่วันยังค่ำ 
กระทั่งชายหนุ่มอดร้นทนไม่ได้ที่จะถามมันออกมา สิ่งที่เขาพูดคือสิ่งที่เขาต้องการคำตอบจริงๆ 
เขาไม่ได้การหัวใจที่มีแต่ความสงสารของนิชคุณสิ่งที่เขาต้องการคือหัวใจที่มีความรักต่างหาก 
หากไม่ได้มันมาเขาก็ขอแค่ได้รักได้ปกป้องอีกฝ่ายข้างเดียวก็เพียงพอ

"ไม่ใช่ ฉันไม่ได้กำลังหลอก ไม่ได้ยอมคบเพราะความสงสารหรือสมเพช ฉันอาจจะยังไม่ได้รู้สึกกับนายเกินไป
กว่าน้องชายแต่ฉันอยากลองตอบรับความรู้สึกที่จริงใจของนายดู ฉันอยากลองรัก...นายจากหัวใจของฉันบ้าง"
พูดไปนิ้วมือทั้งสองข้างก็เริ่มบีบกำกันแน่นด้วยความเครียด ข้อนิ้วเริ่มปุดเกร็งจนกลายเป็นสีขาว 
เขาเรียบเรียงคำพูดไม่ถูกพูดไม่เก่งแต่ก็ได้พยายามแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหนนิชคุณก็ยินดีรับ 
แม้สุดท้ายจะเหลือตัวคนเดียวก็ตาม

"งั้นเราควรมาพยายามด้วยกันนะครับ"
เฉยคางคนก้มหน้าพูดให้ยอมเงยขึ้นมาสบสายตาด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน ถึงจะยังไม่ได้รักกันในตอนนี้ 
แต่ถ้าเขาพยายามและนิชคุณยอมเปิดใจรับเขาแบบนี้ทุกอย่างคงไม่ยากจนเกินไป 
บางทีรักของเขาอาจไม่ใช่เพียงแค่ข้างเดียวตลอดไปก็เป็นได้

"อื้อ!...มาพยายามด้วยกันนะ"
ยิ้มหวานทั้งที่น้ำตาคลอเบ้า เขาหวังเหลือเกินว่าเขาจะเลือกเส้นทางที่ถูกต้องและจบมันลงอย่างสวยงามเสียที

.

.

"ผมขอกอดพี่ได้หรือเปล่าครับ?"
เอ่ยเสียงขลาดขออนุญาติ "คนรัก" ใหม่แกะกล่องอย่างนิชคุณด้วยดวงตาน่าสงสาร ถึงจะคบกันแล้วเขาก็อยากจะ
ขออนุญาติอย่างเป็นทางการอยู่ดี

"ห๊า?...อืม ได้ซิ!"
งงๆไปเล็กน้อย เมื่อจู่ๆก็ถูกถามคำถามแปลกๆ แต่ก็ยอมอนุญาติและเอนตัวให้ร่างสูงกอดแต่โดยดี

"แล้วผมขอหอมแก้มพี่ได้หรือเปล่าครับ?"
ยังไม่ได้คลายอ้อมกอดให้อีกฝ่าย ก็กระซิบเสียงผ่าวข้างใบหูนุ่มเพื่อขอเลื่อนขั้นเป็นลำดับต่อไปทันที

"หะ...หอมหรอ?...อืม...ได้"
ได้ยินเสียงลมหายใจที่เป่ารดใบหู คนหน้าหวานก็ถึงกับขนลุก 
หากแต่ก็ยอมให้ชานซองหอมแก้มที่เริ่มจะแดงของตัวเองง่ายๆ


"แล้วจูบละครับ ทำได้ไหม?"
คราวนี้น้ำเสียงที่แผ่วเบาเปลี่ยนเป็นออดอ้อนในที ใบหน้าคมเคลื่อนจากแก้มใสมาหยุดอยู่ตรงหน้าดวงตากลมโต
จนจมูกของคนทั้งคู่ชนกัน ร่างสูงแสดงสายตาขอร้องอย่างน่าเห็นใจให้คนหน้าหวานยอมตอบรับ

"....."
ไม่มีคำตอบอะไรออกมา ร่างโปร่งชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาติ ให้อีกฝ่ายจูบตนเองได้
อย่างไม่ติดขัด จุมพิตเด็กน้อยประทับลงบนริมฝีปากบางเบาก่อนหยุดลงอย่างง่ายๆ

"แล้วผมขอจูบพี่อีกได้หรือเปล่าครับ"
คราวนี้ชานซองโอบเอวบางให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น อาการออดอ้อนพลิกกลับเป็นเสียงแหบต่ำ
และแสดงสีหน้าเจ้าเหล่แทนการร้องขออย่างน่าแปลกใจและหวั่นใจในคราเดียวกัน

"กะ...ก็จูบไปแล้วเมื่อกี้ไม่ใช่หรอไงกัน?..."
กระพริบตาถี่ๆ ตีสีหน้านิ่งไม่ให้ชานซองรู้ว่าเขากำลังรู้สึกแปลกๆผสมกังวลมากแค่ไหน เมื่อหมีเด็กเริ่มเปลี่ยน
สภาพเป็นหมีหนุ่มที่ออกหาเหยื่อ

"จูบอันนี้ไม่เหมือนเมื่อกี้นะครับ...ขอจูบหน่อย ผมสัญญาไม่ทำเกินกว่านี้หรอกครับ 
คราวก่อนที่พี่ร้องไห้ผมก็จูบพี่แบบแรกไปแล้ว ผมอยากทำให้เกินกว่าที่พี่น้องทำได้น่ะครับ ได้หรือเปล่า?"
ยิ้มหวานพร้อมเอ่ยปากร้องขออย่างสุภาพ หากอีกฝ่ายไม่อนุญาติเขาก็จะไม่ทำ แต่จะรอจนกว่าที่จะได้รับยินยอมในที่สุด

"......"
เป็นอีกครั้งที่ไม่มีคำตอบให้ แต่ดวงตาที่เปิดโตอยู่กลับค่อยๆปรือปิดลงอย่างช้าๆ คล้ายสัญญาณอนุญาติจาก
คนตัวขาว ถ้าไม่เกินกว่านี้เขาก็ยอมให้ได้ ตัวนิชคุณเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าหากเขาจูบกับคนอื่น
ที่ไม่ใช่อ๊ก แทคยอนเขาจะรู้สึกแบบไหน และชานซองจะใช่หรือเปล่า?

ริมฝีปากนุ่มอุ่นทาบทับลงบนกลีบปากแดง จูบไล้ประทับอย่างอ่อนโยนไปทั่วผิวปากอย่างบางเบา 
ก่อนจะจุมพิตหนักๆเพื่อให้อีกฝ่ายยอมเปิดหนทางเข้าสู่ภายใน ความรู้สึกช่างรุ่มเร่าและหอมหวาน 
คนตัวโตตักต้วงทุกความรู้สึกและความต้องการด้วยความปรีดา สิ่งที่เขาต้องการในที่สุดเขาก็ได้มา 
แม้จะยังไม่อาจครอบครองหัวใจนิชคุณได้ แต่เขาจะละลายมันด้วยความรักทั้งหมดหัวใจที่เขามี

...แค่พี่เท่านั้นที่ผมต้องการ...


"ทะ...ทำมากกว่านี้ไม่ได้นะ ฉันยังไม่พร้อม"
ถูกร่างสูงช่วงชิงลมหายใจไปจนเกือบหมด กว่าชานซองจะยอมปล่อย 
ภายในหัวสมองของคนหน้าหวานก็แทบหลุดลอยไปไกล
ผละจากรสจูบที่ชายหนุ่มถวิลหาได้ นิชคุณก็รีบเอ่ยปากปฎิเสธคำร้องขอต่อไปก่อนที่ชานซองจะนึกพูด

ภายใต้เสื้อผ้าที่ปิดบังร่างกายของเขาอยู่ ร่องรอยของใครอีกคนที่กระทำไว้ยังไม่จางห่างหาย 
มันยังคงอยู่ชัดเจนแจ่มแจ่งเขาไม่ต้องการให้ร่างสูงเห็นมัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุและผลใดๆก็ตาม 
อีกประการตนยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้กับชานซองแม้ว่ามันจะไม่มีร่องรอยเหล่านี้มาเกี่ยวข้องก็ตาม 
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่จำต้องใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น ยิ่งกับหัวใจด้วยแล้วนิชคุณยังต้องการเวลามากกว่าสิ่งอื่นใด

"ครับผมรู้...วันนี้ผมขอแค่นี้ก็พอใจแล้วครับ"
ยิ้มรับคำร้องขอจากนิชคุณแต่โดยดี เขารู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเร็วเกินไป สำหรับคนที่ยังไม่ได้รัก ไม่ได้มีใจให้กัน
อีกทั้งรอยจูบนั้นต่างฝ่ายก็คงต่างไม่อยากเห็น คนหน้าหวานคงกลัวว่าเขาจะรู้ความสัมพันธ์ระหว่างอ๊ก แทคยอน 
โดยไม่ทราบความเป็นจริงที่สายเกินกว่าจะปิดบัง ในขณะที่เขาไม่ต้องการเห็นรอยจูบนั้นให้มันช้ำใจซ้ำสอง
เพราะความอิจฉาปนเสียใจ ที่กำลังตีชุลมุนกันให้ทั่วไปหมด

"ขอบใจนะ"
เอียงหัวซบลงบนไหล่กว้างอย่างขอบคุณ สุภาพบุรุษที่หาจากที่ไหนได้ยาก แต่เขากลับได้มาอยู่เคียงข้าง
ด้วยความง่ายดาย เขาควรดีใจและอิจฉาตัวเองหรือเปล่านะ?

"นอนเถอะครับ ดึกแล้ว พรุ่งนี้ออกไปเที่ยวกัน"
พลักคนตัวบางให้นอนลงบนเตียงโดยมีตนนอนขนาบข้าง ก่อนจะขออนุญาติโอบเอวคอดเอาไว้ 
จนกระทั่งแผ่นหลังบางของนิชคุณแนบสนิทกับแผ่นอกกว้างของฮวาง ชานซอง 
คนทั้งคู่หลับไปแทบจะในทันทีที่ไฟปิดมืดสนิทลง ภายใต้ความคิดและความรู้สึกที่แตกต่างกันไป

.

.

กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วห้อง พร้อมขวดเบียร์ เหล้า แอลกฮอลก์ของมึนเมากลิ้งอยู่รอบตัวอ๊ก แทคยอน 
นับตั้งแต่ที่นิชคุณเดินออกจากห้องไป เหล้าก็กลายร่างมาเป็นเพื่อนคนสนิทเข้าแทนที 
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ตนจะได้อยู่เพียงลำพังผู้เดียว หลังจากต้องทนอยู่โดดเดี่ยวมานานกว่า 3 วัน
โดยมีเหล้าและเบียร์เป็นเพื่อนคลายเหงาเท่านั้นถ้าเขาจับแอลกฮอลก์มาอาบได้เขาคงทำไปแล้ว 
บางสิ่งบางอย่างต่อให้อัดแอลกฮอลก์เพราะอยากลืมก็ยังช่วยอะไรไม่ได้ เป็นอิสระจากความตาบอด 
และก็ตื่นขึ้นมาเพื่อพบว่าต้องถูกขังจากกรงหนีออกไปไหนไม่ได้แทน ไม่ต่างจากตอนที่ตาบอดซักนิด

"อ๊ก แทคยอน!...เมาเป็นหมาเลยนะเรา!"
อดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อตนพยายามโทรหาน้องชายเป็นรอบที่ล้านแต่เครื่องก็ถูกปิด 
ไร้สัญญาณตอบรับเดือดร้อนต้องพาตัวเองรีบกลับมาจากเกาะเชจูทั้งๆที่อยู่ในระหว่างไปเที่ยวเล่นพักผ่อน
ช่วงสุดท้ายก่อนบินกลับอเมริกา เพราะมีศักดิ์เป็นพี่สาวจึงไปร้องขอคีย์การ์ดจากผู้จัดการส่วนตัวของเหล่า2พีเอ็ม
มาถือครองได้ 1 ใบเป็นผลสำเร็จ แต่ก็กลับต้องนิ่วหน้าด้วยความเหม็น
เมื่อเปิดประตูมาเจอกับสภาพของน้องชายตัวดีที่ดูเท่าไรก็เหมือนขยะมากกว่ามนุษย์!

"...พี่มา...ทำ...มายครับ?"
ยกหัวที่กำลังจะทิ่มต่ำลงกับพื้นขึ้นมาจ้องมองเสียงตวาดและใบหน้าที่ทมึงทึงของพี่สาวแท้ๆด้วยสีหน้าแปลกใจ 
มาได้ยังไงกันเขาไม่ได้บอกให้มาเสียหน่อย

"มาสั่งสอนแกขั้นเด็ดขาดไง! แกมันขาดสติหรือไงกันอยู่ๆก็ปิดเครื่องไม่รับโทรศัพท์ใคร 
ถามใครก็ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งจุนซูแฟนแกเองก็ยังโทรหาแกไม่ติด เดือดร้อนฉันต้องบินจากเชจูมาตามหาแก
ด้วยความเป็นห่วงแต่กลับมาเจอไอ่ขี้เมาคนนึ่งเเทนน้องชาย แกมันบ้าแทค พรุ่งนี้เพื่อนๆแกจะกลับมาแล้วนะ 
ถ้ายังเมาอยู่ในสภาพนี้ได้เป็นเรื่องแน่ ลุกขึ้นมาเลยนะไอ่เด็กบ้า!"
เดินวนเข้าไปในครัว ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกะละมังใส่น้ำเย็นจัดใบโต ชั่ววูบที่ร่างสูงยอมลุกขึ้นมานั่ง 
น้ำเย็นจากมือพี่สาวคนสวยก็ถูกสาดเข้าหน้าชายหนุ่มอย่างจงใจทันที

"แค่กๆๆ...อะไรวะเนี่ย พี่ทำบ้าอะไรเป็นบ้าอะไรถึงได้มาสาดน้ำใส่ผมแบบนี้!"
ลืมตัวตะโกนใส่พี่สาวด้วยความโมโห ความมึนเมาหายเกือบเป็นปลิดทิ้ง ทุบมือลงกับโต๊ะด้วยความโกรธ 
หลังจากโดนกระทำมามากในความคิดของตัวเขาเอง

"แกนั้นแหละบ้า เป็นไอ่บ้า ไอ่หน้าโง่ ที่สอนไม่รู้จักจำ อวดรู้ อวดดี แกตัดสินใจไปแล้วจะมาทำประชดชีวิตแบบนี้
ให้มันได้อะไรขึ้นมา? ในเมื่อแกเลือกแล้ว ก็ควรจะใช้ชีวิตให้ถูกทางนะแทค เลิกปัญญาอ่อนซะที 
หมามันยังฉลาดกว่าแกเลย! ไปอาบน้ำแล้วลุกขึ้นมาเก็บบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ! 
ถ้าพวกเพื่อนแกกลับมาเจอขวดเหล้าขวดเบียร์เกลื่อนแบบนี้ ได้หาสาเหตุ ตีความหมายกันไปผิดๆถูกๆสนุกแน่"
กัดปากตัวเองแน่นด้วยความหมั่นไส้น้องชายตัวเอง เมื่อครู่เขาควรใส่น้ำแข็งก้อนลงไปด้วย 
เผื่อตอนที่เขาสาดน้ำใส่ไปเมื่อกี้จะมีก้อนน้ำแข็งกระเด็นไปโดนหัวของแทคยอนมันบ้างเลือดโง่จะได้สลายตัวไปบางส่วน

"เลิกพูดได้แล้ว ผมจะไปอาบน้ำก่อน!"

.

.

"......"
ยอมลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยใบหน้าหมองคล้ำ เพื่อกลับออกมาให้พี่สาวด่าซ้ำสองพร้อมเก็บขวดเปล่า
ที่ว่างเกลื่อนห้องเก็บไปทิ้งช่องขยะรีไซเคิล โดยไม่โต้เถียงอะไรพี่ใหญ่ตระกูลอ๊กอีกเลย 

"ถ้าฉันทายไม่ผิดสาเหตุที่ทำให้แกทุร้นทุรายจะเป็นจะตายแบบนี้คงหนีไม่พ้นคุณซินะ?...เขาไปจากนายแล้วละซิคุณน่ะ?"
ถอนหายใจออกมาน้อยๆ เมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของร่างสูง ถ้าคิม จุนซู ทิ้งนายไปแบบนี้บ้างนายจะเจ็บปวดได้ถึงครึ่ง
ของเรื่องนี้หรือเปล่านะแทคฮยอน?

"3 วันก่อน"
บ่งบอกเวลาที่อำลาได้อย่างแม่นยำ ขณะที่มือก็กวาดเก็บขวดเหล้าเบียร์ขวดแล้วขวดเล่าลงถุงขยะด้วยท่าทีเหม่อลอย

"แล้วจุนซู โทรมาหาบ้างหรือเปล่า?"
เพราะเข้าใจว่าน้องอาจรับไม่ไหวกับความรักที่แตกสลาย จึงหยุดพูดถึงนิชคุณไปเสีย
แล้วเปลี่ยนเป็นคิม จุนซูคนรักตัวจริงของแทคยอนแทน

"ผมไม่รู้หรอกครับ ผมลืมเปิดเครื่อง"
ส่ายหน้าปฎิเสธว่าไม่รู้ แม้กระทั่งความเคลื่อนไหวของคนรัก พาเอาผู้เป็นพี่ถึงกับโมโหร่างสูงขึ้นมาอีกละลอก
ทำไมน้องชายตนถึงได้เป็นคนแบบนี้กันนะ?

"แทค...นายรักคุณแต่กลับเลือกจุนซูงั้นหรอ ในเมื่อนายเลือกแล้ว แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ในสภาพเป็นบ้าแบบนี้อยู่ได้? 
เรียกร้องความสนใจไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว 
เขาไม่มีทางกลับมาหานายหรอกแทคยอน คิม จุนซูคือคนที่จะอยู่กับนายไปจนตาย!"
ดักทางออกมากันน้องวิ่งหนี พูดในสิ่งที่ตนคิดมาตลอดแทงเข้าที่ใจดำของร่างสูงเต็มลัก 
น้องชายเขาต้องมีสาเหตุแน่ๆถึงได้เลือกจุนซูแทนคนที่ตัวเองรักแบบหมดใจ 
แต่ประเด็นคือตนไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้แทคยอนเลือกคนอื่นไม่ใช่นิชคุณ แม้หญิงสาวจะ
อยากรู้มากมายแค่ไหน แต่มันก็เกินหน้าที่ของคนเป็นพี่ไปไกลโข 
สิ่งที่ตนทำได้มีเพียงแค่ให้คำแนะนำและเตือนสติเท่านั้น
ส่วนที่เหลือน้องชายเขาต้องเป็นคนตัดสินใจเดินไปต่อ...เพียงลำพัง...

"ครับ...พี่จุนซูคือคนที่ผมต้องอยู่ ต้องรักไปจนตาย! พอใจพี่หรือยัง? ผมรักคุณ แต่ผมเลือกเขาไม่ได้ 
แล้วเขาก็ไม่มีทางเลือกผมเหมือนกัน ไม่มีวันบรรจบ ผิดพลาดหนึ่งครั้งนั้นหมายถึงพลาดจนวันตาย 
ทั้งผมและเขาเราเลือกผิดกันทั้งคู่ ถึงต้องอยู่กันแบบนี้ไงครับ อยู่กับแบบทรมาณใจ อยู่กันแบบปวดใจ 
พอใจพี่หรือยังครับที่มาซ้ำเติมกัน...พี่ช่วยกลับไปก่อนนะครับ ผมอยากอยู่คนเดียว...ขอร้อง"
หน้าที่ของพี่สาวที่พยายามจะบอกและเตือนดูเหมือนจะย้ำให้คนฟังยิ่งเจ็บปวด 
อ๊ก แทคยอนอยู่ทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป ร่างสูงหันหลังให้หญิงสาวแล้วเดินหนีเข้าห้องไปทันที 
เขาเหนื่อยมากพอแล้วสำหรับวันนี้ และพรุ่งนี้เขาต้องเริ่มปั้นหน้าทำเหมือนไม่เจ็บปวดอะไรแม้แต่น้อย 
เพราะฉะนั้นวันนี้พลังงานคือสิ่งสำคัญที่เขาต้องการอย่างที่สุด!

"แทคยอน...พี่จะช่วยอะไรเราได้บ้างนะ? พี่จะทำยังไงได้บ้าง?"
จ้องมองบานประตูที่ปิดเงียบลงด้วยความเศร้าศร้อย และเริ่มก้มลงเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่ทั่ว
ให้เป็นระเบียบแทนน้องอย่างน้อยๆเขาช่วยเรื่องใจไม่ได้ 
เขาก็อาจจะช่วยเรื่องอื่นเช่นเรื่องทำความสะอาดบ้านรกๆแทนน้องได้

"โทรศัพท์ของเด็กบ้านี่!"
วางทิ้งมือถือของตัวเองไว้บนโซฟา ด้วยต้องการหนีพี่สาวตัวเอง
และโดยไม่รู้ตัวร่างสูงก็เผลอทิ้งของสำคัญเอาไว้นอกห้องจนได้
หญิงสาวจึงหยิบเอาโทรศัพท์น้องมาดูเพราะต้องการอะไรบางอย่างทันที

"ฮัลโหลนั้นใช่จุนซูหรือเปล่านี่พี่สาวของแทคยอนเองนะจ๊ะ!"

-TBC#11-

TALK ::
 ใครหวังให้เนื้อเรื่องเริ่มเข้าที่ตัวละครเริ่มสมหวังไม่มีทางหรอกคะ 
เรายังไม่ทำ...นิสัยเลวเบาๆ ตอนนี้ทิ้งปริศนาเอาไว้ให้ทายกันเล็กน้อยว่า 

1. แทคยอนเอากุญแจไปเปิดเจอไดอารี่หรือยัง? 
2.พี่สาวแทคโทรหาจุนซูทำไม?

สำหรับข้อหลังประมาณวันศุกร์หรือวันจันทร์จะได้ทราบคำตอบ (คาดว่าวันจันทร์) 
ส่วนข้อแรก...อีกซักพัก 
หึหึหึ ตอนนี้เขียน 11 แผ่นยาวพอตัว

ปล 1. รักคนอ่านและคนคอมเมนท์ทุกท่าน ท่านเป็นกำลังใจสำคัญมากสำหรับการต่อฟิคในตอนต่อไปของเราคะ 

ปล 2. ถ้าเราขึ้นเรื่องต่อไป แน่นอนต้องจบเรื่องนี้ก่อนจะยังมีคนอ่านมะคะ? แล้วส่วนใหญ่รีดเดอร์ชอบอ่านแนวไหนกัน?
ถามไปงั้นแหละ ไงๆก็แต่งแนวตัวเองอยู่แล้ว (แนวอ่านได้เรื่อยๆแบบเหนื่อยใจ) หึหึหึ ฝากผลงานด้วยคะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น