[FIC] :: LAST 14
[COUPLE] :: TK
-14-
“อะไรนะ คุณ รักฉันงั้นหรอ?...เป็นไปได้ยังไง
แล้วนายรู้เรื่องที่ฉันพูดได้ยังไงกัน!”
ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเขาเองได้ยิน
ฟังดูเหมือนกับว่าอ๊ก แทคยอนกำลังพยายามพูดโกหกให้ตนหลงกลเชื่อฟังก็ไม่ปาน
แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องแปลกใจยิ่งกว่าก็คือร่างสูงดูเหมือนจะรับรู้อดีตที่แสนเจ็บปวดของคิม
จุนซูคนนี้ดีทีเดียว
"เอาเป็นว่าผมรู้ก็แล้วกันครับ...รู้จริงๆว่าเมื่อก่อนคุณเขาเคย...รักพี่มาก
รักจริงๆ แต่ไม่จำเป็นต้องว่ารู้ผมรู้มาจากใครหรืออะไรแค่เข้าใจอย่างเดียวว่าสิ่งที่ผมพูดมันคือความจริงทั้งหมด
คำสัญญาที่ผมให้พี่เอาไว้เมื่อคืนก็ไม่ใช่เรื่องโกหกเช่นกัน"
ปัดความต้องการจะรับรู้ของอีกฝ่ายออก
เพราะไม่ต้องการให้จุนซูทราบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับไดอารี่ของนิชคุณ
แล้วดึงเอาคำมั่นสัญญาออกมาเรียกความสนใจและความรู้สึกที่แท้จริงของนิชคุณที่มีต่อจุนซูให้ร่างโปร่งได้รับรู้แทน
"ฉันไม่สนหรอกนะว่าหมอนั้นจะเคยรักฉัน
รักอยู่ หรือไม่รักแล้ว เพราะถ้าเป็นคนที่รักกันจริงเขาต้องไม่ทำกันแบบนี้
ไม่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็นแบบนี้!...แค่ครั้งเดียวมันก็เกินพอแต่...นี่มีซ้ำสองแล้วยังจะมีหน้ามาบอกอีกหรอว่ารักกันน่ะ!”
ความรักเลวๆแบบนั้นเขาไม่ต้องการมันหรอก
จะให้เขายอมรับ ยอมให้อภัยงั้นหรือ? ฝันไปเถอะว่าจะยอม
ทั้งๆที่นิชคุณรักเขาแต่กลับทำร้ายเขาแบบนี้ ไม่มีใครที่ไหนในโลกใบนี้ที่กล้าพูดว่ารักกันแล้วหักหลังทำร้ายกันแบบนี้หรอก
อย่าหวังเลยว่าตนจะยอมอภัยให้ง่ายๆ ไม่มีทางไม่มีวัน ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายรัก
ก็ยิ่งทำให้เขาเกลียดมากกว่าเดิม...คุณค่าของความรักที่เคยมีให้กันฉันจะตอบแทนมันอย่างสาสม!
“แต่พี่จุนซูครับ...อย่าทำอะไรคุณเลยครับ
ลงกับผมแค่คนเดียวก็พอแล้ว แค่นี้ทุกคนก็เจ็บปวดมากพอแล้วนะครับ อย่ายุ่งกับคุณอีกเลย
ปล่อยทุกอย่างให้เลือนหายไปบ้างจะได้ไหมครับ?”
พยายามพูดให้คิม
จุนซูโอนอ่อนอย่างสุดกำลัง แต่เหมือนยิ่งทำก็ยิ่งจุดไฟให้มันลามไปใหญ่โตกว่าเดิม
ร่างสูงพยายามต่อสู้กับฤทธิ์ยาที่เริ่มออกส่งผลทั้งๆที่ยังพูดไม่จบแท้ๆ
แต่ก็สู้มันไม่ไหวในที่สุดเปลือกตาก็ค่อยๆปิดหลับลงอย่างช้าๆ ฤทธิ์ของยาทำเอาร่างสูงสิ้นเรี่ยวแรง
ในที่สุดก็คล้อยหลับไปจนได้
“ไม่มีวัน!...นายรู้หรือเปล่า?
ตอนแรกฉันก็แค่อยากแย่งนายออกจากคุณบ้างอยากให้หมอนั้นรู้สึกเจ็บ
ว่าการโดนทำร้าย
โดยทรยศหักหลังมันเป็นแบบไหน
ฉันเห็นแค่นายเป็นเพียงเบี้ยตัวนึ่งเอาไว้เดินบนกระดาน
เป็นแค่เบี้ยที่ถูกฉันใช้งานตามใจชอบ
จะทำยังไงก็ได้ แค่เอาเรื่องของนิชคุณมาขู่นายก็กังวลซะแทบตาย แล้ว
นายรู้หรือเปล่าว่าฉันอิจฉาหมอนั้นมากแค่ไหน
ที่ใครต่อใครเอาแต่รุมหลงรักใบหน้าสวยๆนั้น
คนสองคนที่ฉันรักจากในอดีตที่เลวร้ายของฉันแล้วมาวันนี้
คุณก็ยังมีทั้งนายทั้งชานซองคอยปกป้อง คอยให้ท้ายเอาอกเอาใจสารพัดอีก แล้วฉันละ
ฉันคนนี้ คิม จุนซูคนนี้...ไปอยู่ตรงไหนกัน? ฉันเองก็อยากได้ความรักนะแทคยอน
...มันจะยังทันไหมถ้าฉันจะเริ่มรักนายขึ้นมาจริงๆ
นายช่วยเอาหัวใจฉันไปทีได้หรือเปล่า? แค่มีใครซักคนที่รักฉันจากหัวใจ
ฉันก็แค่อยากมีความรักที่สมปรารถนากับเขาบ้าง มันผิดมากนักหรือไงแทคยอน? ถ้าฉันต้องการจะได้นายมาจริงๆ นั้นหมายถึงฉันต้องการทุกอย่างของนาย
และจะยิ่งดีใจมากขึ้นไปอีก ถ้าทรมาณคุณให้ต้องรู้สึกเจ็บปางตายอย่างที่คนอย่างฉันเคยเป็น!"
พึมพำอยู่ใบหูคนที่กำลังเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความอึดอัด
และคับแค้น ความรู้สึกจริงๆจากหัวใจถูกระบายออกมาจนหมด
เกราะแห่งความเย็นชาที่ถูกหุ้มเอาไว้โดนปลดระวางลงชั่วคราวอย่างไม่แยแส
ใบหน้าเนียนก้มแนบชิดแผ่นอกกว้าง
ปล่อยให้น้ำตาแห่งความอ่อนแอหล่นร่วงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี...โดยที่ความเกลียดชังยังคงถลำลึก
.
.
"ทำไมบ้านมันเงียบแบบนี้อ่ะ?"
อูยองเปิดประตูเข้ามาภายในบ้านพักก็ต้องเจอกับความเงียบสงัด
น่าวังเวงพิลึก ทั้งๆที่ควรจะมีทั้งพี่แทคยอนและพี่คุณอยู่
แต่ทำไมอย่างกับไม่มีใครอยู่เลยซักคนแบบนี้หว่า?
"นั้นดิ!...ไปไหนกันหมดหรือพี่แทคยอนกะพี่คุณยังไม่ตื่น?"
จุนโฮรีบถอดรองเท้าเดินตามเข้ามาในบ้านติดๆ
เหลียวซ้ายแลขวาก็ยิ่งรู้สึกถึงกลิ่นอายน่ากลัวแบบประหลาด นี่เขาอยู่บ้านที่มีคนอาศัยจริงๆหรือบ้านร้างกันแน่นะเนี่ย!
"ถ้าแทคกับคุณน่ะยังไม่ตื่นแต่สำหรับฉันยังไม่ได้นอนเลยมากกว่า"
จุนซูโผล่ศีรษะขึ้นมาจากโซฟานุ่มหน้าทีวี
ในเมื่อถือแก้วกาแฟรสเข้มข้นเอาไว้หลวมๆ
หลังจากที่เมื่อคืนมีเรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้นมากมาย จนทำเอาตนถึงกับนอนไม่หลับไปทั้งคืน เช้านี้จุนซูจึงเดินลงมาหากาแฟดื่มรับรุ่งอรุณที่ดูจะสดใสสำหรับใครคนอื่นที่ไม่ใช่เขา!
"พี่จุนซู?...อะไรเนี่ยพี่มาก่อนพวกผมอีกหรอ? แล้วทำไมขอบตาดำงั้นอ่ะจะไปดำแข่งกะหมีแพนด้าหรอ?"
อูยองแยกเขี้ยวยิ้มกว้างออกลายแหย่พี่ชายคนโตของวงด้วยความคิดถึงทันที
หลังจากไม่ได้เจอกันมานานเป็นสัปดาห์
"นั้นดิ! แค่ฉายาแพนด้าก็น่าจะพอแล้ว
นี่ถึงขนาดจะเอาให้เหมือนจริงเลย?"
จุนโฮหัวเราะตาหยีทำตัวเป็นลูกคู่กับอูยองอย่างเข้าขา
นานแล้วจริงๆที่ไม่ได้เจอกัน คงต้องหยอกให้มากเท่าที่เขาคิดถึงซะแล้วละมั้ง!
"อย่ามาตลก!...ชานซองเองก็มาแล้วเหมือนกัน หมอนั้นมาเมื่อคืนนี้...นายสองคนเป็นพวกคนล้าหลังที่สุดในกลุ่ม!"
พูดจบก็ลุกขึ้นจากโซฟาเตรียมเดินขึ้นไปบนห้องนอน
พร้อมโบกมือให้น้องชายตัวเเสบทั้งสองคนหลีกทางให้ตนเดินผ่านเสียดีๆ
"อะไรอ่ะ?.../มากันหมดแล้ว...หรอ?"
ทั้งสองคนพอได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับงง
แสดงอาการหมาเซ็งออกมา ทำไมต้องเป็นพวกเขาทุกทีที่รู้อะไรเป็นพวกสุดท้ายตลอด!
.
.
"แทคยอนเป็นไงบ้าง?...ดีขึ้นหรือยัง?"
ฝ่ามืออุ่นแตะสัมผัสกับหน้าผากของร่างสูงเพื่อวัดอุณหภูมิร่างกาย
ตั้งแต่เมื่อคืนดูเหมือนชายหนุ่มจะทรมาณไม่น้อย
ใบหน้าคมดูกระสับกระส่าย
ทั้งยังพูดจาพึมพำละเมอเสียฟังไม่รู้เรื่อง จนจุนซูต้องตื่นค่อยดูแลแทบทั้งคืน
"อืม~...พี่จุนซู ดีขึ้นแล้วครับขอบคุณมาก...เอ่อ...ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป
ผมขอน้ำหน่อยได้หรือเปล่าครับ?"
ขยับปากที่แห้งผากโต้ตอบจุนซูด้วยน้ำเสียงที่แหบห้าว
ทั่วทั้งลำคอแทบเหมือนทะเลทรายไม่มีผิด จึงเอ่ยปากขอน้ำ
จากร่างโปร่งดื่มเพื่อดับกระหายภายใน
"รบกวนอะไร?...ไม่รบกวนอะไรทั้งนั้นแหละ!...ต่อไปนี้ถ้านายยังจำคำพูดของตัวเองเมื่อคืนนี้ได้และรักษามันเอาไว้
ตามที่สัญญา
ไม่ว่าอะไรฉันก็จะทำเพื่อนายทั้งนั้น แค่นายยอมอยู่ข้างฉันและไม่กลับไปหานิชคุณอีก
อยู่กับฉัน
ซื่อสัตย์กับฉัน
ไม่ทำร้ายฉันเหมือนที่คนอื่นๆทำ ฉันก็จะเป็นคนดีของนายแทคยอน..."
พูดทั้งๆที่ยังป้อนน้ำให้แทคยอน
แววตาเเสนเศร้าออดอ้อนขอคำสัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาต้องการความมั่นใจ เขาต้องการ
อ๊ก
แทคยอนขึ้นมาจริงๆแล้วในเวลานี้ ไม่ใช่เพื่อแก้แค้น เพื่อทรมาณ แต่เขากำลังจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อความต้องการ
จากตัวตนที่แท้จริงของตัวเขาเองต่างหาก
"ครับ...ผมจะอยู่กับพี่ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน
ผมก็จะอยู่กับพี่ ถ้าพี่ไม่เอ่ยปากไล่ผมไปเสียก่อน
ผมจะไม่ใช่ฝ่ายทิ้งพี่ไปก่อนหรอกครับ"
ไม่ว่าคนตรงหน้าเขาจะประสงค์สิ่งใด
หากอ๊ก แทคยอนทำให้ได้เขาก็จะทำ
ครั้งนี้เขาจะรักษาสัญญาและทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่
คนคนนึ่งจะทำได้
เขาจะอยู่เคียงข้างคิม จุนซูไปตลอด ร่างกายนี้เขาจะยกมันให้อีกฝ่ายอย่างซื่อสัตย์
แต่กับหัวใจ...เขาจะถือว่ามันไม่เคยมีอยู่กับเขามานาน
และไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไป...แค่ร่างกายกับสมองก็พอที่เขาต้องการ!
"ฉันเชื่อนาย"
ยิ้มหวานให้ร่างสูงอย่างมีความสุขเมื่อได้รับคำสัญญาจากชายหนุ่ม
โน้มตัวลงไปโอบกอดอีกฝ่ายอย่างพึงพอใจ
ถึงจะรู้ว่ามีเพียงร่างกายเท่านั้นที่คนคนนี้ยินยอมมอบให้อย่างจริงใจ
ส่วนหัวใจนั้นอยู่ที่ใครอีกคน แต่ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
เขาจะต้องไปทวงมันกลับคืนมาจากนิชคุณเอง!
...ก็ถ้าเขาจะได้อ๊ก แทคยอน มาจริงๆเขาก็สมควรได้รับมาทุกอย่างไม่ใช่หรือ?...
.
.
"พี่คุณตาของพี่มันบวมมากเลยนะครับ...ผมว่าเดี๋ยวผมไปหาน้ำแข็งมาประคบดีกว่าจะได้ยุบเร็วๆ"
ฮวาง
ชานซองตกใจกับดวงตาที่ปูดบวมของนิชคุณอย่างเห็นได้ชัด
ร่างสูงรีบวิ่งลงไปด้านข้างเพื่อหาน้ำแข็งมาประคอง
อย่างร้อนใจ
ด้วยกลัวว่าใบหน้าหวานจะดูไม่ดี หากคนอื่นๆได้เห็นมันเข้า
"อื้อ...ขอบใจนะ"
พยักหน้าตอบรับความหวังดีของชานซอง
ก่อนจะนั่งรอให้อีกฝ่ายวิ่งลงไปหาน้ำแข็งก้อนขึ้นมาประคบดวงตาของตนที่ห้องครัวด้านล่าง
.
.
"อ้าว? พวกพี่ๆกลับมากันตั้งแต่เมื่อไรครับ?"
ชานซองเดินลงมาด้านล่างก็เจออูยองและจุนโฮกำลังเล่นเกมส์กดที่หน้าทีวี
พนันแพ้พนันชนะอย่างเอาจริงเอาจัง
จึงเดินไปเข้าไปทักทายก่อนเลยเข้าไปหยิบน้ำแข็งที่ครัว
"กลับมาซักพักแหละ
เมื่อกี้ก็เจอพี่จุนซูตาเงี่ยดำเชี่ยวเห็นบอกว่าอดนอนเมื่อคืน
แล้วนี่ทำไมนายลงมาจากข้างบนอ่ะ?
ห้องนายอยู่ข้างล่างไม่ใช่หรือไง?"
จุนโฮกดปุ่มหยุดเกมส์ลงครู่นึ่งแล้วหันมาถามเอาคำตอบจากร่างสูงด้วยความสงสัย
ปกติถ้ามันไม่นอนอยู่นอกห้อง
มันก็ต้องไปอยู่ในห้องมันดิ
แต่นี่ทำไมถึงได้เดินลงมาจากชั้นบนกัน นั้นมันชั้นของเหล่าผู้อาวุโสไม่ใช่หรอ?
"ก็ต้องเดินลงมาซิครับ
เมื่อคืนผมนอนข้างบนกับพี่คุณนินา"
โดยลืมนึกถึงผลที่จะตามมาเพราะถูกเอาคำพูดไปตีความหมายแบบผิดๆ
พอนึกจะแก้คำพูดขึ้นมา อูยองกับจุนโฮก็พากันคิดไปไกลเสียแล้ว
"นี่นาย!...โหย ไวไฟวะ แค่หายไป 7 วันนายกับพี่คุณถึงขั้น...แล้วหรอ?"
อูยองตาโตอย่างตื่นเต้นยิ่งกว่าใคร
รัวลิ้นทั้งเเซวทั้งถามโดยเว้นว่างประโยคสำคัญที่รู้กันเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ
ยอมปล่อยมือออกจากเกมส์ชั่วคราวแล้วหันกลับมาถามชานซองด้วยความสนอกสนใจ
"คิดกันไปถึงไหนเลยครับ...ผมนอนกับพี่คุณจริงๆครับ
แต่ก็แค่นอนเฉยๆ นอน...โถ่พวกพี่ๆไม่สนใจผมเลย!"
พยายามตั้งต้นจะอธิบายอีกทีก็ดูเหมือนอีกสองหนุ่มจะเลิกใยดีตนเองไปแล้ว
ปิดสมองการรับรู้แล้วเข้าสู่พะวังของเกมส์อีกครั้ง
ตอนนี้ในสมองของอูยองและจุนโฮคงเข้าใจผิดไปไกลเกินกู่กลับ
ถึงแม้ว่าชานซองจะพยายามแหกปากอธิบายแต่ในเวลาที่
อูยองกำลังจะเลี้ยงลูกเข้าโกล ขณะที่จุนโฮพยายามบล็อกลูกไม่ให้หมุนเข้าประตู ด้วยกลัวจะเสียเงินให้อูยองขึ้นมาจรองๆ 10000 วอน ถ้าหากลูกหลุดเข้าประตู และถูกทำแต้มได้ เรื่องของชานซองก็เลยกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปโดยปริยาย ทำเอาร่างสูงถึงกับถอดใจคอตกเดินไปในห้องครัวในที่สุด
อูยองกำลังจะเลี้ยงลูกเข้าโกล ขณะที่จุนโฮพยายามบล็อกลูกไม่ให้หมุนเข้าประตู ด้วยกลัวจะเสียเงินให้อูยองขึ้นมาจรองๆ 10000 วอน ถ้าหากลูกหลุดเข้าประตู และถูกทำแต้มได้ เรื่องของชานซองก็เลยกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปโดยปริยาย ทำเอาร่างสูงถึงกับถอดใจคอตกเดินไปในห้องครัวในที่สุด
.
.
"เป็นอะไรไปชานซองทำไมอยู่ๆก็ทำหน้าแบบนั้นกัน?"
เห็นร่างสูงหน้านิ่วคิ้วขมวดหลังจากเดินกลับขึ้นมาจากด้านล่าง
ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ
ตอนลงไปยังเห็นดีๆอยู่แท้ๆ
แต่ทำไมขึ้นมาหน้าถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้กัน?
"ก็พี่จุนโฮกะพี่อูยองเขา...ช่างเถอะครับ...แค่เรื่องไร้สาระ"
จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องน่าซีเรียสอะไรซักหน่อยที่ต้องเก็บมาใส่ใจ
เขาก็แค่หงุดหงิดที่พี่ชายทั้งสองคนเอาแต่เล่นเกมส์
ไม่สนใจใยดีทั้งต่อคำอธิบายหรือตัวตนฮวาง
ชานซองคนนี้ก็เท่านั้น
"หืม?...สองคนนั้นกลับมาแล้วงั้นหรอ?...โดนแกล้งอะไรอีกละ?"
ห่อน้ำแข็งเอาไว้ในผ้าขนหนูผืนเล็ก
ก่อนจะหยิบมันมาผูกให้เป็นปมปิดทางเข้าออกของก้อนน้ำแข็ง
แล้วค่อยๆเริ่มประคบผ้าขนหนูผืนเย็นลงบนดวงตาทั้งสอง
สลับซ้ายขวาทันที
"เรื่องผมช่างมันเหอะครับ!...เมื่อกี้ที่ผมเจอพี่อูยองกับพี่จุนโฮสองคนนั้นบอกว่าก่อนเจอผมเขาเจอพี่จุนซูนั่งอยู่แถวโซฟาด้านล่าง
ท่าทางเหมือนไม่ได้นอนมาตลอดตั้งแต่เมื่อวาน ไม่รู้ว่าเพราะดูเเลพี่แทคยอนทั้งคืนหรือมีเรื่องอื่นกันแน่?"
เปลี่ยนเรื่องราวไร้สาระของตัวเองทิ้ง
แล้วเริ่มวนกลับเข้าสู่เรื่องที่สมควรรู้แทน ถ้าเป็นคนนิสัยอย่างคิม
จุนซูในแบบที่ตนเองเห็น
ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะอดหลับอดนอนดูแลอ๊ก
แทคยอนขนาดนี้แน่ มันต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้ซิน่า!
"เขาก็ต้องดูแลกันซิ!...สองคนนั้นเขาเป็นคนรักกันนะชานซอง
นายอย่าคิดอะไรในแง่ร้ายเลย ถึงพี่จุนซูเขาจะร้ายกับแทคยอน
ไปหน่อยแต่คนกำลังป่วยขนาดนั้น
พี่จุนซูคงไม่ใจร้ายเกินไปหรอกมั้ง?"
พยายามพูดขึ้นอย่างไม่คิดอะไรมาก
แต่ก็อดรู้สึกเป็นห่วงแทคยอนขึ้นมาอีกรอบไม่ได้ สิ่งที่ชานซองพูดมีเหตุผลพอตัว
คิม
จุนซูที่เขาเห็นเมื่อคืนไม่ใช่คิม จุนซูที่เคยเป็นคนใจดีในอดีตมาก่อนแน่ๆ!
"ผมก็หวังไว้แบบนั้นครับ"
.
.
"พี่แทคยอนเป็นอะไรอ่ะพี่?...ทำไมดูป่วยมากขนาดนั้น?...ป่วยได้ไงอ่ะ?"
เจอใบหน้าอิดโรยของแทคยอนเข้าไปอูยองก็ถึงกับอุทานออกมาอย่างแปลกใจ
อ๊ก แทคยอนผู้บ้าพลังอยู่สม่ำเสมอ
กลายเป็นคนป่วยได้ขนาดนี้
มันเกิดอะไรกันขึ้นนะ?
"ฉันก็คนนะ! ทำไมจะป่วยไม่เป็นกันละ?"
โวยวายเสียงแหบออกมาเมื่อถูกน้องชายแก้มแตกแซวแบบไม่ละเว้น
ก่อนจะค่อยๆถูกจุนซูที่พยุงลงจากห้องให้มานั่งพักตรง
โซฟาบริเวณที่อูยองและจุนโฮกำลังแข่งเกมส์บอลกันอยู่หน้าทีวีไม่ยอมเลิก
"อ้าว? นี่เป็นอะไรไปอีกคนอ่ะเนี่ย
ทำไมตาบวมแบบนั้นละครับพี่คุณ?"
ที่นี่มันโรงพยาบาลหรือบ้านกันแน่
ลี จุนโฮละงง! ทำไมมองไปที่ไหนก็มีแต่คนดูป่วยดูเจ็บไปหมดทุกทาง คนนึ่งขอบตาดำคล้ำซะน่ากลัวเพราะอดนอน
นอนไม่หลับจนดูป่วย อีกคนก็ป่วยหน้าซีดซะต้องมีคนพยุงเดิน
มาอีกคนก็ตาบวมตาปูดจนแทบจำไม่ได้ว่าเคยตาโตมาก่อน!
"ถ้าอยู่ใกล้ๆพวกพี่สามคนมากๆ
พวกผมจะติดเชื้อป่วยไปด้วยมะเนี่ย? 3
ผู้เฒ่าทำไมป่วยกันขนาดนี้ครับ
7
วันนี้ใครเอาเชื้อโรคอะไรมาปล่อยทิ้งไว้บ้านหลังนี้ป่ะเนี่ย?"
พูดติดตลกแบบไม่คิดอะไร
แต่ก็ทำเอาบุคคลที่ถูกกล่าวถึงอย่าง จุนซู แทคยอน และนิชคุณ ถึงกับสะอึกไปกับคำว่า
"เชื้อโรค"ของอูยองไม่น้อย สิ่งที่พวกเขาทั้งหมดได้กระทำลงไปกลับกลายเป็นเชื้อโรคที่อาจแพร่เชื้อให้น้องๆคนอื่นภายในวงเสียแล้วหรือ?
"นั้นดิ!...เอ่อ แล้วทำไมชานซองแกไม่ป่วยกับเขาวะ? นอนกับพี่คุณด้วยกันมาทั้งคืนทำไมไม่ติดกัน?
เฮ้ย!...หรือว่าที่พี่คุณตาบวมตาปูดเพราะแกไปขื่นใจพี่เขาจนร้องไห้วะไอ่ชานซอง!"
จุนโฮหัวเราะก๊ากกับมุกของตัวเขาเอง
เขาช่างสร้างสรรค์คำพูดออกมาได้บรรเจิดจริงๆ ทำไมวันอื่นเขาถึงไม่ตลกให้ได้มาก
เท่ากับวันนี้นะ
วันที่เขาต้องไปออกรายการวาไรตี้น่ะ อยากทำได้แบบนี้จัง!
"อะไรนะ?...ผมกับพี่คุณเรา...ใช่ครับ!เราเป็นแฟนกันนิครับก็คบกันแล้วทำไมจะนอนด้วยกันไม่ได้
พี่คุณเขาไม่มีทางปฎิเสธผมอยู่แล้ว
คนเป็นแฟน เป็นคนรักกันมีสิทธิ์จะนอนด้วยกันอย่างถูกต้องไม่ใช่หรือไงครับ?"
กำลังจะเอ่ยปฎิเสธคำใส่ความของลี
จุนโฮที่เล่นงานเขาแรงเกินเหตุจนกลัวว่าทุกๆคนจะพากันเข้าใจผิด
แต่เมื่อมองเห็นใบหน้า
ของอ๊ก
แทคยอนแสดงสีหน้าเจ็บปวด และ คิม จุนซูที่แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ร่างสูงก็เปลี่ยนใจเป็นตอบรับคำใส่ความ
จากลี
จุนโฮทันควัน
"คบกันแล้ว!...เป็นแฟนกันแล้วหรอ?"
คราวนี้ทั้งอูยองและจุนโฮเลิกสนใจเกมส์ฟุตบอลอย่างเด็ดขาดแล้วหันมาให้ความสนใจกับเรื่องของชาวบ้านแทน
อย่างตื่นเต้น
"ครับ...พอใจพี่ยัง...เป็นแฟนกันแล้ว...ได้กันแล้วด้วย
เอาตามแต่ที่พี่อยากคิดกันเลยครับ!"
เพราะต้องการจะทดสอบอะไรบางอย่าง
จึงพยายามเน้นย้ำคำพูดตัวเองตอกซ้ำลงไปทีละคำทีละคำ
ส่วนผลตอบรับก็กลับได้ดีเกินคาด
ดูเหมือนคนที่ร้อนอกร้อนมากที่สุดจะไม่ใช่อ๊ก แทคยอน และกลับเป็นคิม จุนซูมากกว่า!
"ชานซอง"
นิชคุณตกใจมากที่จู่ๆร่างสูงก็พูดออกมาด้วยท่าทีร่าเริงเกินเหตุ
ก็ไหนเมื่อคืนเป็นคนบอกตนเองไม่ใช่หรือว่าไม่อยากให้ทุกอย่าง
มันวุ่นวายเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น
แล้วทำไม...
"พี่คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอกครับ..."
รีบกุมมือของนิชคุณเอาไว้พร้อมบีบน้อยๆส่งสัญญาณให้ร่างโปร่งเอ่อออห่อหมกตามตนเองไปก่อน
เพื่อไม่ให้คนอื่นๆจับได้ว่ากำลังโกหก!
"อะ...อืม...ตามนั้น"
กลั้นใจพยักหน้าตอกย้ำเรื่องเล่าของชานซองอีกครั้ง
จนทั้งอูยองและจุนโฮร้องเฮดังลั่น
ก็ลุ้นให้รักกันมาตั้งนานในที่สุดก็ลงเอ่ยกันจนได้
"ไม่จริง...โกหกแน่ๆก็.../พอเถอะครับ
อูยองกับจุนโฮ สองคนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรด้วย พี่อย่าเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด
อย่าทำร้ายคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องด้วยไปมากกว่านี้นะครับ"
หยุดความคิดของจุนซูได้ทัน
ก่อนที่ร่างโปร่งจะระเบิดมันออกมาด้วยความแคลงใจ แทคยอนก้มลงกระซิบข้างใบหูนุ่ม
ให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคนพร้อมยิ้มอย่างอดทนและใจเย็นพร้อมส่งสายตาให้จุนซูสบเห็นอย่างขอร้อง
คิม จุนซูจึงยอมสงบปากสงบคำลงในที่สุด
"พี่แทคยอนกับพี่จุนซู
พวกพี่สองคนจะไม่แสดงความยินดีกับผมสองคนหน่อยหรอครับ?"
จงใจเดินตรงเข้าหาคนนึ่งที่ไม่แสดงอาการยินดีให้เห็น
ส่วนอีกคนก็มีแต่รังสียินร้ายกระจายแผ่ไปทั่ว
ชานซองทิ้งให้นิชคุณอยู่คุยกับจุนโฮและอูยองอีกฝั่ง
ส่วนตัวเขาเองกลับมาหาจุนซูและแทคยอนแทน
"ทำไมจะต้องยินดีไม่ทราบ?...อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่านายโกหก!...คุณไม่มีทางเลือกนายหรอก
หมอนั้นรัก..."
คิม
จุนซูไม่สามารถพูดมันต่อให้จบ เขาไม่สามารถยอมรับความจริงได้ ความจริงที่ว่า
นิชคุณรักแทคยอน และแทคยอนก็รักนิชคุณคนสองคนรักนี้กัน แต่มีเขาเข้ามากั้นกลางเอาไว้!
"รักใครงั้นหรอครับ?"
ตีหน้าซื่อทำราวกับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมาก่อนในชีวิต
หวังจะให้อีกฝ่ายยอมคายความลับออกมาเอง
"ไม่เกี่ยวกับนาย...แทคยอนฉันว่านายขึ้นไปพักดีกว่า
แถวนี้มีแต่มลพิษ!"
ค่อยๆพยุงแทคยอนให้ลุกขึ้นยืนอย่างลำบาก
เพราะอีกฝ่ายค่อนข้างตัวสูงกว่าตนเองมาก จนชานซองต้องเดินเข้ามาช่วยแต่ทว่า...
"ไม่ต้องมายุ่งไม่ต้องมาจับ!...ฉันช่วยแทคยอนเองคนเดียวได้"
ตะครอกใส่ชานซองอย่างลืมตัว
จนอีกสามคนที่เหลือต้องหันกลับมามองด้วยความตกอกตกใจกับเสียงไม่พอใจของคิม จุนซู
"ไม่มีอะไรหรอก...ชานซองช่วยฉันหน่อยแล้วกันนะ"
รีบโบกมือปฎิเสธน้องๆที่กำลังจ้องมองมาทางพวกตนด้วยความสนใจ
แทคยอนหันกลับไปขอความช่วยเหลือน้องชายตัวโตแทนจุนซูที่ไม่ยอมรับความช่วยเหลือของอีกฝ่าย
แทคยอนกอดคอชานซองเดินขึ้นห้องไปทันที โดยไม่สนใจคำคัดค้านของจุนซู
และสายตาที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยของนิชคุณ
เขาไม่ต้องการรับรู้มันอีกต่อไปแล้ว
ถ้าเขาจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเขาจะต้องไม่ใส่ใจนิชคุณอีกต่อไป
.
.
"แทคยอนทำไมต้องไปรับความช่วยเหลือจากชานซองด้วย
ทำไมต้องขัดใจฉันกัน!"
วีนแตกทันทีที่ประตูปิดลงและชานซองเดินออกไปจากห้อง
เขาเกลียดคนไม่ยอมตามใจเขาที่สุด
เขาไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง
ไม่ชอบซักนิด!
"ชานซองไม่รู้เรื่องอะไรนะครับ
ทำไมพี่ต้องไม่ชอบชานซองถึงขนาดนั้นกัน เด็กนั้นทำอะไรให้พี่งั้นหรือครับ?
อีกอย่างเรายังต้องอยู่ด้วยกันเป็นวงอีกนาน
การที่พี่ท่าทางแบบนั้นออกมามันดูไม่ดีเลยนะครับ
คนอื่นๆถ้ามองดูท่าทางที่พี่แสดงออกกับคนในวงแบบนี้เขาจะรู้สึกแย่แบบไหน
ทุกอย่างจบลงแล้วนะครับพี่จุนซู
มันจบลงด้วยดีแล้ว
ทำไมพี่ถึงยังไม่พอใจกัน?"
ในที่สุดมันก็จบ
ทางออกทุกทางถูกแก้ไขไปได้ด้วยดี มันถูกวางไปในทางที่ถูกต้อง แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจเขาถึงอยากร้องไห้แบบนี้กันนะ?
"...ฉันสัญญาว่าจะหยุดทำร้ายนาย
จะเป็นคนดีของนายอทคยอน...แต่ไม่เคยสัญญาว่าจะหยุดคิดเรื่องนิชคุณ
หมอนั้นทำกับฉันมามากจนเกินรับไหวแล้วยังแย่งหัวใจของนายที่สมควรจะเป็นของฉันไปอีก
ตอนนี้ก็ยังจะบอกว่าคบกับไอ่เด็กชานซองนั้น ทั้งๆที่ยังเก็บหัวใจของนายเอาไว้! คนคนนั้นจะขโมยทุกอย่างไปทั้งหมดเลยหรือไง! ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะแทคยอน ฉันจะเอาชนะนิชคุณ ฉันต้องการความรักจากนาย
ฉันอยากได้หัวใจของนาย ทำไม?...ทั้งๆที่คุณก็คบกับชานซองแล้ว
แล้วทำไมถึงไม่ปล่อยหัวใจนายกลับคืนมากัน!"
ยิ่งพูดความรู้เกลียดชังก็ยิ่งทวีพูล
เขาเกลียด เกลียดทุกอย่างที่เป็นนิชคุณ เกลียดทุกคนที่รักนิชคุณ เข้าข้างนิชคุณ
เขาอยากจะเกลียดแทคยอนด้วยซ้ำแต่กลับทำไม่ได้
คนคนนี้อยู่เคียงเขามานานเกินไป เขาอาจจะโกรธ อาจจะลงโทษ
แทคยอนด้วยความรุนแรง
และความสะใจ หรือแม้แต่เคยคิดฆ่าอย่างจริงจัง! แต่นั้นมันก็เพราะมีนิชคุณมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น
ถ้าไม่มีหมอนั้นซักคน...โลกของคิม
จุนซูจะต้องงดงามแน่ๆ!
"......"
อ๊ก
แทคยอนไม่รู้ว่าควรจะต้องปลอบใจร่างโปร่งอย่างไรดี
ตัวของเขาเองก็จนคำพูดจะหามาประโลมอีกฝ่ายเช่นกัน
เขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้ว่า นิชคุณไม่เคยแย่งหัวใจของเขาไปเลย เป็นตัวเขาเองตะหากที่เต็มใจยกให้
เขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้ว่า นิชคุณไม่เคยแย่งหัวใจของเขาไปเลย เป็นตัวเขาเองตะหากที่เต็มใจยกให้
โดยไม่เคยคิดเรียกร้องมันกลับคืนมา
ด้วยเขารู้ดีว่าถ้าหากพูดไปละก็ นอกจากจุนซูจะไม่โทษเขาแล้ว
ยังต้องโยนทุกอย่างให้นิชคุณเป็นคนผิดทั้งหมดแน่ เขาจึงปิดปากเงียบไปเสียจะดีกว่า
.
.
"ชานซอง...นายกำลังพยายามทำอะไรอยู่งั้นหรอ?"
เดินกลับเข้ามาในห้องได้
นิชคุณก็ถามในสิ่งที่ร่างสูงกำลังพยายามทำทันที
"ผมอยากรู้อะไรบางอย่างน่ะครับ...ผมต้องการที่จะมั่นใจ
ก่อนจะตัดสินใจทำบางสิ่ง ขอเวลาผมหน่อย
ให้ผมแน่ใจกับเรื่องๆนึ่งก่อน
มันต้องจบลงได้ด้วยดีครับ แค่ตอนนี้พี่ตามน้ำผมแค่นั้นพออย่าพึ่งถามอะไรมาก
ผมยังให้คำตอบกับพี่ตรงๆไม่ได้เหมือนกัน"
ให้คำสัญญากับนิชคุณด้วยความมั่นใจในสิ่งที่ตนเองเลือกที่จะกระทำ
แม้เขาไม่มั่นใจว่าทุกอย่างจะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นหรือไม่
แต่สิ่งที่เขากำลังจะเริ่มลงมือทำเป็นสิ่งที่ดีที่สุดระหว่างทุกคนเเน่นอนแม้แต่ตัวเขาเองก็เช่นกัน!
.
.
"วันนี้นายจะไปทำงานได้หรือเปล่าแทคยอน
แน่ใจนะว่าไหว?
หรือจะอยากพักต่ออีกวัน?"
มินแจ 1
ในผู้จัดการส่วนตัวของเหล่า 2 พีเอ็มเปิดประตูห้องเข้ามาสอบถามความแน่ใจอีกครั้ง
หลังจากเห็นว่าร่างสูงยอมตอบตกลงเดินทางไปถ่ายโฆษณากับวง
ทั้งๆที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก
"พอแล้วละครับ!
ผมดีขึ้นมากแล้วนอนพักอยู่ตั้ง 2 วันให้คนอื่นมารอผมคนเดียวคงไม่ได้ ผมไหวครับไปถ่ายให้จบๆไปจะดีกว่า"
ติดกระดุมเม็ดสุดท้ายที่ด้านบน
ก่อนจะคว้าเอาผ้าพันคอมาสวมทับหนีอากาศเย็นป้องกันตัวเองไข้กลับอีกรอบอย่างระมัดระวัง
"งั้นก็ไปกัน
ทุกคนอยู่ที่ลานจอดรถแล้ว
จุนซูก็ด้วยหมอนั้นนึกว่านายจะไม่ไปเลยเดินไปรอที่ด้านล่างก่อนน่ะ"
เดินนำน้องชายลงมาที่ลานจอดรถชั้นล่าง
พร้อมชี้ไปยังจุดที่รถจอดอยู่ข้างกลุ่มสมาชิกอีก 5 คนที่เหลือ
"นาย...จะไปงั้นหรอแทคยอน?"
รีบเดินเข้ามาหาแทคยอนทันทีที่ได้เห็นร่างสูง
ใบหน้าเนียนดูแปลกใจพอๆกับที่เป็นห่วง ตนไม่คิดว่าชานหนุ่มจะฝืนตัวเองออกมาทรมาณทั้งๆที่ยังไม่ซาไข้ดีแท้ๆ
"ผมไปไหวครับพี่จุนซูไม่ต้องห่วง"
นิ้วมือกร้านยกขึ้นเกลี่ยแก้มใสเบาๆ
ให้อีกฝ่ายเลิกตีหน้าเป็นห่วงพร้อมกับเดินนำขึ้นรถไปก่อน โดยมีจุนซูขึ้นตามมาติดๆ
"อ้าว?...พี่คุณเข้าไปดิ ผมจะได้เข้าต่อ...เอ๊า!ชานซองแกจะแทรกทำไมวะ?"
อูยองดันให้นิชคุณขึ้นรถต่อจากจุนซูโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
จนชานซองต้องแทรกตัวขึ้นไปก่อนเพื่อไม่ให้คนอื่นผิดสังเกตุนั้นแหละนิชคุณจึงยอมก้าวขึ้นรถตามมา
"ขึ้นๆมาเถอะครับ
จะใครขึ้นก่อนขึ้นหลังก็ไม่เห็นเกี่ยวเลย เดี๋ยวจะสายแล้วนะครับ"
ตัดบทก่อนจะได้ยินเสียงจาง
อูยองโวยวายไปมากกว่านี้ มือใหญ่กวักเรียกพี่ชายเเก้มแตกให้ขึ้นมาโดยไว
เพราะเบื่อจะฟังคำบ่นเต็มทน
.
.
การถ่ายทำโฆษณาในวันนี้มีคอนเซปต์ที่ความเร็วและหรูหราของรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง
โดยที่ทุกคนจะต้องจับคู่กันขึ้นไปนั่งบนรถแต่ละคันที่ถูกจอดอยู่บนลานจอดเครื่องบินแต่ละมุม
และค่อยๆขับออกจากมุมกล้องไปอย่างช้าๆ
ก่อนจะเริ่มเหยียบคันเร่งให้เริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆจนออกจากกรอบกล้องไป
ผู้กำกับเริ่มถ่ายทำกับรถและคู่ทีละคันเพื่อเก็บรายละเอียดช็อดให้สวยงามและปราณีตมากที่สุด
พวกเขาเริ่มต้นที่อูยองคู่จุนโฮ
แทคยอนคู่นิชคุณ และชานซองคู่จุนซู ตามลำดับ
แต่ละคนถูกเรียกตัวไปซักซ้อมคิวการหัน
การขยับ อารมณ์ สีหน้า ท่าทางที่ต้องแสดงออก
ผ่านไมโครโฟนตัวเล็กที่ถูกติดตั้งเอาไว้บนรถที่ปิดประตู
และทิ้งให้คนแต่ละคู่ต้องอยู่เผชิญหน้ากันเเละกันเพียงลำพังเท่านั้น!
-TBC#15-
TALK :: ตอนนี้เสร็จมาตั้งแต่วันพุธแล้ว แต่นอนรอเอามาปล่อยวันศุกร์แทน
เพราะว่าเหมือนจะลงเร็วไป
เอามาต่อให้พอดีๆดีกว่า
สัปดาห์ละ 2-3 ตอนก็น่าจะพอ
หลายๆคนเขียนมาว่าเป็นกำลังใจให้คนเขียนก็ขอขอบคุณมากๆ
เพราะเห็นว่าปมเนื้อเรื่องมันเยอะละซิ เลยกลัวแต่งไม่จบ หึหึหึ ไม่ต้องกลัวนะ
แต่งจบแน่แต่ใจเย็นๆในแต่ละตอนก็มีเนื้อบ้างน้ำบ้างผสมกันไปเน๊อะ แก้ปมสนุกสนาน
มันเลยอาจจะจบช้าเล็กน้อย
รำคาญได้แต่อย่างเลิกอ่านนะ หึหึหึ
แต่แค่คนอ่านได้อ่าน
แล้วอิน อ่านแล้วสนุกเราก็ยินดีมากแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่าแค่
1 เดือนกว่าๆ จะปาเข้าไป 15 ตอนแล้ว มันจะโดนลากยาวไปถึงไหนก็ไม่รู้
ก็ติดตามอ่านกันต่อไปเรื่อยๆก็แล้วกันนะคะ
ขอบคุณมากคะสำหรับคอมเมนท์น่ารักๆของทุกๆท่านหวังว่าตอนที่
16 หรือตอนต่อๆไปจะสนุกสนานกับฟิคของเรา
เราเองก็จะรอคอมเมนท์แนวๆจากทุกท่านคะ
เจอกันตอน16คะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น